บียอนเซ่ช่วยแฮร์ริสหาเสียง ชูสิทธิทำแท้ง “ถึงเวลาที่อเมริกาจะร้องบทเพลงใหม่”

บียอนเซ่ ขึ้นเวทีหาเสียงให้ คามาลา แฮร์ริส ที่เมืองฮิวสตัน รัฐเทกซัส
บียอนเซ่ ขึ้นเวทีหาเสียงให้ คามาลา แฮร์ริส ที่เมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา วันที่ 25 ตุลาคม 2024 (ภาพโดย Marco Bello/ REUTERS)

บียอนเซ่ ศิลปินนักร้องซูเปอร์สตาร์ระดับโลกขึ้นเวทีช่วย คามาลา แฮร์ริส หาเสียงที่เมืองฮิวสตัน รัฐเทกซัส ชูสิทธิทำแท้ง ประกาศไม่ได้มาในฐานะคนดังหรือนักการเมือง แต่มาในฐานะแม่คนหนึ่งที่ห่วงใยโลก ซึ่งต้องเป็นโลกที่ทุกคนมีอิสระในการควบคุมร่างกายของตนเอง “ถึงเวลาแล้วสำหรับอเมริกาที่จะร้องบทเพลงใหม่”

วันที่ 26 ตุลาคม 2024 มติชนรายงานอ้างอิงสื่อต่างประเทศว่า บียอนเซ่ (Beyonce) นักร้องซูเปอร์สตาร์ระดับโลกได้ขึ้นเวทีหาเสียงสนับสนุนให้กับคามาลา แฮร์ริส (Kamala Harris) ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ที่เมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส เมื่อช่วงค่ำคืนวันศุกร์ (25 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ในเวลาที่เหลือเพียง 11 วัน จะถึงวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้งซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ ท่ามกลางคะแนนนิยมระหว่างแฮร์ริส กับโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) อดีตประธานาธิบดีและคู่แข่งจากพรรครีพับลิกันยังคงสุดสูสี

การขึ้นเวทีครั้งนี้ของบียอนเซ่ในเมืองฮิวสตัน อันเป็นบ้านเกิดของเธอ พร้อมด้วยเคลลี โรว์แลนด์ (Kelly Rowland) อดีตสมาชิกร่วมวงเดสทินีส์ไชลด์ (Destiny’s Child) บียอนเซ่ไม่ได้ร้องเพลง แต่มากล่าวหาเสียงสนับสนุนแฮร์ริส ที่การหาเสียงในวันนี้มุ่งเน้นไปที่ประเด็นสิทธิการทำแท้ง ซึ่งมีประชาชนมาร่วมฟังการปราศรัยราว 30,000 คน

บียอนเซ่ และเคลลี่ โรวแลนด์ ขึ้นเวทีหาเสียงให้ คามาลา แฮร์ริส ที่เมืองฮิวสตัน รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา วันที่ 25 ตุลาคม 2024 (ภาพโดย Marco Bello/ REUTERS)
เคลลี่ โรวแลนด์ และบียอนเซ่ ขึ้นเวทีหาเสียงให้ คามาลา แฮร์ริส ที่เมืองฮิวสตัน รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา วันที่ 25 ตุลาคม 2024 (ภาพโดย Marco Bello/ REUTERS)

บียอนเซ่กล่าวว่า ตนมาที่นี่ไม่ใช่ในฐานะคนดังหรือนักการเมือง แต่มาในฐานะแม่คนหนึ่งที่ห่วงใยโลกอย่างลึกซึ้ง “โลกที่เราต่างมีอิสระในการควบคุมร่างกายของเรา” 

“อิสรภาพของคุณคือสิทธิที่พระเจ้าประทานให้ เป็นสิทธิมนุษยชนของคุณ … ถึงเวลาแล้วสำหรับอเมริกาที่จะร้องบทเพลงใหม่”

ก่อนที่บียอนเซ่จะกล่าวต้อนรับแฮร์ริสขึ้นบนเวที โดยแฮร์ริสได้กล่าวถึงอันตรายของทรัมป์และพรรครีพับลิกันที่อาจมีต่อสิทธิในการทำแท้งทั่วประเทศหากทรัมป์ได้รับเลือก

ADVERTISMENT

“ความจริงก็คือคนใกล้ชิดกับโดนัลด์ ทรัมป์ มากที่สุดตอนที่เขาเป็นประธานาธิบดี เข้าใจดีมาก ๆ ถึงอันตรายและภัยคุกคามที่เขามีต่ออเมริกา และข้อเท็จจริงที่ว่าเขาไม่เหมาะที่จะดำรงตำแหน่ง” แฮร์ริสกล่าว

บียอนเซ่ และเคลลี่ โรวแลนด์ ขึ้นเวทีหาเสียงให้ คามาลา แฮร์ริส ที่เมืองฮิวสตัน รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา วันที่ 25 ตุลาคม 2024
บียอนเซ่ และเคลลี่ โรวแลนด์ ขึ้นเวทีหาเสียงให้ คามาลา แฮร์ริส ที่เมืองฮิวสตัน รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา วันที่ 25 ตุลาคม 2024 (ภาพโดย Marco Bello/ REUTERS)

ในขณะที่แฮร์ริสหาเสียงอยู่ที่เมืองฮิวสตัน ด้านทรัมป์อยู่ที่เมืองออสติน ในรัฐเทกซัสเช่นกัน ในช่วงเย็นวันเดียวกัน ในการบันทึกเทปให้สัมภาษณ์ในรายการ “The Joe Rogan Experience,” ซึ่งเป็นรายการฮิตที่สุดทางพอดแคสต์ในอเมริกา ใช้เวลาราว 3 ชั่วโมง

ADVERTISMENT

การสัมภาษณ์ทรัมป์ส่วนใหญ่เป็นการพูดคุยในหัวข้อที่หลากหลาย รวมถึงเรื่องยูเอฟโอ แฟ้มลับเหตุการณ์ลอบยิงสังหารอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ.เคนเนดี้ (John F. Kenedy) ของสหรัฐ แต่ไม่ได้มีการลงรายละเอียดถึงนโยบายของทรัมป์แต่อย่างใด และทรัมป์ยังหลีกเลี่ยงที่จะแตะถึงประเด็นการทำแท้งที่เขาต่อต้านอีกด้วย

ขณะที่โพลสำรวจของนิวยอร์กไทม์ส/เซียนาคอลเลจ เผยแพร่ล่าสุดในวันศุกร์ชี้ว่าการแข่งขันยังคงเป็นไปอย่างดุเดือด โดยผลสำรวจพบว่าทรัมป์และแฮร์ริสมีคะแนนนิยมเท่ากันที่ 48% 

“ประชาชาติธุรกิจ” รายงานเพิ่มเติมว่า ผลการสำรวจความคิดเห็นทั่วประเทศโดยรอยเตอร์และอิปซอส (Reuters/Ipsos Poll) ในช่วง 6 วัน ซึ่งปิดการสำรวจเมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา พบว่า คามาลา แฮร์ริส นำ โดนัลด์ ทรัมป์ อยู่เล็กน้อย 46% ต่อ 43%

ขณะที่ผลการสำรวจโดย 538 หรือไฟฟ์เทอร์ตี้เอท อัพเดต ณ วันที่ 24 ตุลาคม คะแนนนิยมทั่วประเทศ แฮร์ริสนำทรัมป์อยู่ที่ 48.1% ต่อ 46.4% ส่วนในสะวิงสเตต 7 รัฐ แฮร์ริสนำอยู่ใน 3 รัฐคือ เนวาดา วิสคอนซิล และมิชิแกน ส่วนทรัมป์นำ 4 รัฐคือ เพนซิลเวเนีย นอร์ทแคโรไลนา จอร์เจีย และแอริโซนา