
บียอนเซ่ ศิลปินนักร้องซูเปอร์สตาร์ระดับโลกขึ้นเวทีช่วย คามาลา แฮร์ริส หาเสียงที่เมืองฮิวสตัน รัฐเทกซัส ชูสิทธิทำแท้ง ประกาศไม่ได้มาในฐานะคนดังหรือนักการเมือง แต่มาในฐานะแม่คนหนึ่งที่ห่วงใยโลก ซึ่งต้องเป็นโลกที่ทุกคนมีอิสระในการควบคุมร่างกายของตนเอง “ถึงเวลาแล้วสำหรับอเมริกาที่จะร้องบทเพลงใหม่”
วันที่ 26 ตุลาคม 2024 มติชนรายงานอ้างอิงสื่อต่างประเทศว่า บียอนเซ่ (Beyonce) นักร้องซูเปอร์สตาร์ระดับโลกได้ขึ้นเวทีหาเสียงสนับสนุนให้กับคามาลา แฮร์ริส (Kamala Harris) ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ที่เมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส เมื่อช่วงค่ำคืนวันศุกร์ (25 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ในเวลาที่เหลือเพียง 11 วัน จะถึงวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้งซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ ท่ามกลางคะแนนนิยมระหว่างแฮร์ริส กับโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) อดีตประธานาธิบดีและคู่แข่งจากพรรครีพับลิกันยังคงสุดสูสี
การขึ้นเวทีครั้งนี้ของบียอนเซ่ในเมืองฮิวสตัน อันเป็นบ้านเกิดของเธอ พร้อมด้วยเคลลี โรว์แลนด์ (Kelly Rowland) อดีตสมาชิกร่วมวงเดสทินีส์ไชลด์ (Destiny’s Child) บียอนเซ่ไม่ได้ร้องเพลง แต่มากล่าวหาเสียงสนับสนุนแฮร์ริส ที่การหาเสียงในวันนี้มุ่งเน้นไปที่ประเด็นสิทธิการทำแท้ง ซึ่งมีประชาชนมาร่วมฟังการปราศรัยราว 30,000 คน

บียอนเซ่กล่าวว่า ตนมาที่นี่ไม่ใช่ในฐานะคนดังหรือนักการเมือง แต่มาในฐานะแม่คนหนึ่งที่ห่วงใยโลกอย่างลึกซึ้ง “โลกที่เราต่างมีอิสระในการควบคุมร่างกายของเรา”
“อิสรภาพของคุณคือสิทธิที่พระเจ้าประทานให้ เป็นสิทธิมนุษยชนของคุณ … ถึงเวลาแล้วสำหรับอเมริกาที่จะร้องบทเพลงใหม่”
ก่อนที่บียอนเซ่จะกล่าวต้อนรับแฮร์ริสขึ้นบนเวที โดยแฮร์ริสได้กล่าวถึงอันตรายของทรัมป์และพรรครีพับลิกันที่อาจมีต่อสิทธิในการทำแท้งทั่วประเทศหากทรัมป์ได้รับเลือก
“ความจริงก็คือคนใกล้ชิดกับโดนัลด์ ทรัมป์ มากที่สุดตอนที่เขาเป็นประธานาธิบดี เข้าใจดีมาก ๆ ถึงอันตรายและภัยคุกคามที่เขามีต่ออเมริกา และข้อเท็จจริงที่ว่าเขาไม่เหมาะที่จะดำรงตำแหน่ง” แฮร์ริสกล่าว

ในขณะที่แฮร์ริสหาเสียงอยู่ที่เมืองฮิวสตัน ด้านทรัมป์อยู่ที่เมืองออสติน ในรัฐเทกซัสเช่นกัน ในช่วงเย็นวันเดียวกัน ในการบันทึกเทปให้สัมภาษณ์ในรายการ “The Joe Rogan Experience,” ซึ่งเป็นรายการฮิตที่สุดทางพอดแคสต์ในอเมริกา ใช้เวลาราว 3 ชั่วโมง
การสัมภาษณ์ทรัมป์ส่วนใหญ่เป็นการพูดคุยในหัวข้อที่หลากหลาย รวมถึงเรื่องยูเอฟโอ แฟ้มลับเหตุการณ์ลอบยิงสังหารอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ.เคนเนดี้ (John F. Kenedy) ของสหรัฐ แต่ไม่ได้มีการลงรายละเอียดถึงนโยบายของทรัมป์แต่อย่างใด และทรัมป์ยังหลีกเลี่ยงที่จะแตะถึงประเด็นการทำแท้งที่เขาต่อต้านอีกด้วย
ขณะที่โพลสำรวจของนิวยอร์กไทม์ส/เซียนาคอลเลจ เผยแพร่ล่าสุดในวันศุกร์ชี้ว่าการแข่งขันยังคงเป็นไปอย่างดุเดือด โดยผลสำรวจพบว่าทรัมป์และแฮร์ริสมีคะแนนนิยมเท่ากันที่ 48%
“ประชาชาติธุรกิจ” รายงานเพิ่มเติมว่า ผลการสำรวจความคิดเห็นทั่วประเทศโดยรอยเตอร์และอิปซอส (Reuters/Ipsos Poll) ในช่วง 6 วัน ซึ่งปิดการสำรวจเมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา พบว่า คามาลา แฮร์ริส นำ โดนัลด์ ทรัมป์ อยู่เล็กน้อย 46% ต่อ 43%
ขณะที่ผลการสำรวจโดย 538 หรือไฟฟ์เทอร์ตี้เอท อัพเดต ณ วันที่ 24 ตุลาคม คะแนนนิยมทั่วประเทศ แฮร์ริสนำทรัมป์อยู่ที่ 48.1% ต่อ 46.4% ส่วนในสะวิงสเตต 7 รัฐ แฮร์ริสนำอยู่ใน 3 รัฐคือ เนวาดา วิสคอนซิล และมิชิแกน ส่วนทรัมป์นำ 4 รัฐคือ เพนซิลเวเนีย นอร์ทแคโรไลนา จอร์เจีย และแอริโซนา