จีนโกรธจัด สั่งบริษัทรถยนต์หยุดแผนลงทุนโรงงานในยุโรป

กำแพงภาษี สงครามการค้า

รอยเตอร์รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า กระทรวงพาณิชย์จีนแจ้งบริษัทรถยนต์สัญชาติจีนหยุดแผนการลงทุนตั้งโรงงานในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ที่สนับสนุนการขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจีน ด้านสื่อของรัฐจีนรายงานว่า กระทรวงพาณิชย์จีนตำหนิอียูกีดกันทางการค้าภายใต้หน้ากาก “การแข่งขันที่เป็นธรรม”

รอยเตอร์ (Reuters) รายงานในวันที่ 30 ตุลาคม 2024 โดยอ้างคำบอกเล่าของแหล่งข่าว 2 คนว่า กระทรวงพาณิชย์จีนได้แจ้งต่อผู้ผลิตรถยนต์จีนหลายราย รวมถึงบีวายดี (BYD) เอสเอไอซี (SAIC) และจีลี่ (Geely) ในการประชุมเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ว่าควรหยุดแผนการลงทุนในสินทรัพย์ขนาดใหญ่ เช่น โรงงานผลิตหรือประกอบรถยนต์ในประเทศต่าง ๆ ในยุโรปที่สนับสนุนการขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) ที่ผลิตในจีน

แหล่งข่าวของรอยเตอร์บอกอีกว่า มีผู้ผลิตรถยนต์ต่างชาติหลายรายเข้าร่วมการประชุมกับกระทรวงพาณิชย์จีนในวันดังกล่าวด้วย นอกจากได้รับแจ้งให้หยุดแผนการลงทุนในประเทศที่หนุนการขึ้นภาษีแล้ว ผู้เข้าร่วมประชุมได้รับแจ้งให้ระมัดระวังการลงทุนในประเทศที่งดออกเสียงด้วย และในทางตรงข้าม พวกเขาได้รับการสนับสนุนให้ลงทุนในประเทศที่ออกเสียงคัดค้านการขึ้นภาษี

ขณะที่สำนักข่าวซินหัว (Xinhua) ของทางการจีนรายงานในวันที่ 30 ตุลาคมเช่นกันว่า โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีนประกาศว่า จีนไม่เห็นด้วยหรือยอมรับมติของคณะกรรมาธิการยุโรปในการจัดเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มเติมกับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ผลิตโดยจีน 

โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนชี้ว่า กรณีสหภาพยุโรป (EU) ดำเนินการสอบสวนต่อต้านเงินอุดหนุนกับยานยนต์ไฟฟ้าของจีนเป็นเรื่องไร้เหตุผล เต็มไปด้วยสิ่งที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน และเป็นการกีดกันทางการค้าภายใต้หน้ากาก “การแข่งขันที่เป็นธรรม” 

“จีนได้ยื่นคำร้องต่อกลไกระงับข้อพิพาทขององค์การการค้าโลก (WTO) แล้ว และจะยังคงดำเนินมาตรการอันจำเป็นทั้งหมดเพื่อคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์อันถูกต้องตามกฎหมายของบริษัทผู้ประกอบการจีน

Advertisment

“จีนสนับสนุนการแก้ไขปัญหาข้อพิพาททางการค้าผ่านการเจรจาหารือเสมอมา และพยายามทำสิ่งดังกล่าวอย่างสุดกำลังความสามารถ โดยปัจจุบันทีมเทคนิคจากทั้งสองฝ่ายกำลังดำเนินการเจรจาหารือระยะใหม่” 

โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีนกล่าวอีกว่า จีนหวังว่าฝ่ายยุโรปจะทำงานร่วมกับจีนอย่างสร้างสรรค์ ปฏิบัติตามหลักการ “ปฏิบัตินิยมและความสมดุล” คำนึงถึงข้อกังวลหลักของอีกฝ่าย และพยายามบรรลุแนวทางอันเป็นที่ยอมรับได้ของกันและกันโดยเร็วที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้งทางการค้า

Advertisment