
โดนัลด์ ทรัมป์ แคนดิเดตรีพับลิกันและคามาลา แฮร์ริส แคนดิเดตเดโมแครตต่างเลือกรัฐเพนซิลเวเนียเป็นพื้นที่หาเสียงในวันสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ทั้งสองมุ่งระดมผู้สนับสนุนให้ไปใช้สิทธิกันให้มากที่สุด ขณะที่แฮร์ริสเคาะตามประตูบ้าน ทรัมป์เน้นย้ำประเด็นเศรษฐกิจส่งท้าย
วันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน และ คามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เลือกเดินสายหาเสียงในรัฐเพนซิลเวเนีย ในวันสุดท้ายของการหาเสียง ก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้
ในการหาเสียงวันสุดท้ายในวันที่ 4 พฤศจิกายน ตามเวลาท้องถิ่น ผู้สมัครรับเลือกตั้งทั้งสองคนเลือกจุดหมายเดียวกัน ซึ่งคือรัฐเพนซิลเวเนีย รัฐที่มีสัดส่วนของคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral College) มากที่สุดในบรรดา 7 รัฐสมรภูมิที่ชี้ชะตาผลการเลือกตั้ง เพื่อกระตุ้นให้ผู้สนับสนุนที่ยังไม่ได้ไปใช้สิทธิล่วงหน้าให้ไปใช้สิทธิลงคะแนนในวันเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายน
ในเมืองพิตต์สเบิร์ก ทรัมป์ปรากฏตัวต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในสนามกีฬา และกล่าวข้อความส่งท้ายแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในช่วงไม่กี่ชั่วโมงสุดท้ายก่อนถึงวันเลือกตั้ง
“เรารอคอยสิ่งนี้มาสี่ปีแล้ว” ทรัมป์กล่าว ซึ่งพยายามกลับมาลงสมัครในปี 2024 หลังจากแพ้การเลือกตั้งในปี 2020 ให้กับไบเดน และทรัมป์ยังเน้นย้ำประเด็นเศรษฐกิจ โดยกล่าวว่าหากแฮร์ริสได้รับเลือก แฮร์ริสจะต้องนำปัญหาเศรษฐกิจมาให้
ขณะที่ในเมืองอัลเลนทาวน์ แฮร์ริสทำนายชัยชนะและสัญญาว่าจะเป็นประธานาธิบดีของชาวอเมริกันทุกคน ขณะที่เธออ้อนวอนขอคะแนนเสียงจากชุมชนชาวอเมริกันเชื้อสายเปอร์โตริโกจำนวนมากในเมือง ซึ่งรู้สึกไม่พอใจกับการดูหมิ่นของนักแสดงตลกบนเวทีหาเสียงของทรัมป์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ต่อมาแฮร์ริสได้เคาะประตูบ้านในเมืองเรดดิ้งและจัดการหาเสียงสั้น ๆ ในเมืองพิตต์สเบิร์ก ทั้งนี้ แฮร์ริสมีกำหนดปิดท้ายวันหาเสียงด้วยงานที่เต็มไปด้วยคนดังที่ช่วยหาเสียงในเมืองฟิลาเดลเฟีย
“พรุ่งนี้เป็นวันเลือกตั้งและโมเมนตัมอยู่ข้างเรา” แฮร์ริสกล่าวที่เมืองพิตต์สเบิร์ก
ทีมหาเสียงของแฮร์ริสยังกล่าวอีกว่า อาสาสมัครได้เคาะประตูบ้านหลายแสนหลังในแต่ละรัฐที่เป็นสมรภูมิการเลือกตั้งในสุดสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ จากโพลแสดงให้เห็นว่า ทรัมป์ ซึ่งอายุ 78 ปี และแฮร์ริส อายุ 60 ปี มีคะแนนแทบจะเท่า ๆ กัน ซึ่งจะส่งผลให้ต้องรอไปอีกหลายวันจึงอาจจะทราบผู้ชนะการเลือกตั้ง หลังการลงคะแนนเสียงในวันอังคารนี้
โพลจากนิวยอร์กไทมส์/เซียนาคอลเลจ ซึ่งสำรวจประชาชนในรัฐสะวิงสเตตระหว่างวันที่ 24 ตุลาคมถึง 2 พฤศจิกายนระบุว่า ผลคะแนนที่เสมอกันในรัฐเพนซิลเวเนีย แสดงให้เห็นว่าทรัมป์ได้รับแรงหนุนมากขึ้นในรัฐนี้ ซึ่งแฮร์ริสเคยนำอยู่ 4% ในการสำรวจความคิดเห็นของนิวยอร์กไทมส์ก่อนหน้านี้