จากการสำรวจของไฉซิน/เอสแอนด์พี โกลบอล ดัชนีภาคบริการของจีนขยายตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาด เป็น 52 ในเดือนตุลาคม มากสุดในรอบ 4 เดือน หลังมีการกระตุ้นทางเศรษฐกิจชุดใหญ่โดยรัฐบาลจีน ส่งสัญญาณถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า กิจกรรมภาคบริการของจีนเติบโตมากสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม จากการสำรวจโดยสถาบันเอกชนไฉซิน (Caixin) และเอสแอนด์พี โกลบอล (S&P Global) พบว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนเพิ่มขึ้นเป็น 52 ในเดือนตุลาคมจาก 50.3 ในเดือนกันยายน ส่งสัญญาณว่าอุปสงค์ผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังมีการกระตุ้นทางเศรษฐกิจ
ค่าของผลสำรวจจากรายงานนับว่ามากกว่าค่ากลาง 50.5 ที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ในการสำรวจของบลูมเบิร์ก ซึ่งค่าที่ออกมามากกว่า 50 นับเป็นการขยายตัวในแดนบวก
หวัง เจ่อ (Wang Zhe) นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสที่ไฉซิน อินไซต์ กรุ๊ป (Caixin Insight Group) กล่าวในแถลงการณ์ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2024 ว่า อุปทานและอุปสงค์เติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นเพราะตลาดมีพัฒนาการดีขึ้น ภาคธุรกิจแสดงความเชื่อมั่นต่อเงื่อนไขทางเศรษฐกิจมหภาคในระยะสั้น
ดัชนีหุ้นจีน CSI 300 พลิกขึ้น 1.2% หลังข้อมูลดังกล่าวเผยแพร่
สุขภาพเศรษฐกิจผู้บริโภคจะยังคงถูกจับตาดูอยู่เรื่อย ๆ แม้ตัวเลขภาคการผลิตและภาคอสังหาฯจะแสดงสัญญาณถึงการฟื้นตัวเบื้องต้นแล้วก็ตาม การชุบชีวิตอุปสงค์ภายในประเทศเป็นสิ่งสำคัญต่อการหลบเลี่ยงภาวะเงินฝืด ที่อาจทำให้การใช้จ่ายของครัวเรือนและรายได้ธุรกิจลดลง รวมถึงตำแหน่งงานที่อาจเสียไป
รัฐบาลจีนเริ่มประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่เมื่อปลายเดือนกันยายน ตั้งแต่การลดอัตราดอกเบี้ย ทั้งยังช่วยเหลือตลาดหุ้นและตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งนักลงทุนต่างคาดหวังว่ารัฐบาลจีนจะออกมาตรการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจอีกภายในสัปดาห์หลังรู้ผลการเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา
ต่างจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อที่สำรวจโดยรัฐบาล ดัชนีของไฉซินจะเน้นไปยังภาคส่วนทางธุรกิจที่มีขนาดเล็กกว่า ซึ่งตัวชี้วัดก่อนหน้านี้ของรัฐบาล แสดงให้เห็นถึงเสถียรภาพของการบริโภคภายในประเทศในเดือนตุลาคม โดยมาตรการนอกภาคการผลิตของภาคการก่อสร้างและภาคบริการกลับมาขยายตัว ในเดือนกันยายน