แคนาดาสั่ง ByteDance ปิดบริษัทย่อย TikTok ในประเทศ เหตุเป็นภัยต่อความมั่นคง แต่ประชาชนชาวแคนาดายังคงสามารถเล่นแอปพลิเคชั่น TikTok ได้เหมือนเดิม ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายแสดงความเห็นว่าการแบนบริษัทไม่ช่วยอะไร เพราะความเสี่ยงจากแอปยังคงมีอยู่
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า รัฐบาลแคนาดาสั่งให้ไบต์แดนซ์ (ByteDance) ปิดบริษัทในเครือ ติ๊กต๊อก เทคโนโลยี แคนาดา (TikTok Technology Canada) โดยระบุว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ แต่ชาวแคนาดายังคงเล่นแอป และถ่ายคลิปวิดีโอสั้นต่อไปได้
ตามแถลงการณ์ที่เผยแพร่ออกมาในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2024 ของฟร็องซัว-ฟิลิปป์ แชมเปญจ์ (Francois-Philippe Champagne) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงนวัตกรรม วิทยาศาสตร์ และอุตสาหกรรมแคนาดา การตัดสินใจดังกล่าว เกิดขึ้นหลังมีการทบทวนถึงความมั่นคงของชาติ ด้วยหลักฐานและคำแนะนำของหน่วยข่าวกรองและความมั่นคงของแคนาดา ซึ่งในปี 2023 แคนาดาเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับสหรัฐและสหภาพยุโรปในการสั่งห้ามไม่ให้ใช้แอปพลิเคชั่นดังกล่าวบนอุปกรณ์ภาครัฐ
ไมเคิล ไกสต์ (Michael Geist) ศาสตราจารย์กฎหมายจากมหาวิทยาลัยออตตาวา โพสต์แสดงความเห็นว่าถือเป็นความเคลื่อนไหวที่ ‘แปลก’ เนื่องจากว่าการแบนบริษัทไม่ใช่ที่ตัวแอป ที่จริงแล้วอาจทำให้ปัญหาแย่ลงกว่าเดิม เพราะว่าความเสี่ยงจากแอปยังคงมีอยู่ แต่ความสามารถในการควบคุมบริษัทจะอ่อนลง
โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้คว้าชัยศึกชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐคนต่อไป เคยพยายามจะแบนติ๊กต๊อกในปี 2020 และเมื่อเดือนเมษายน 2024 มีการลงมติจากทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครต บังคับให้ไบต์แดนซ์ต้องขายหุ้นติ๊กต๊อก ไม่เช่นนั้นจะถูกแบน ซึ่งติ๊กต๊อกกำลังต่อสู้ทางกฎหมายบนชั้นศาล อย่างไรก็ตาม ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทรัมป์กล่าวกับบลูมเบิร์ก บิสซิเนสวีก ว่าเขาสนับสนุนติ๊กต๊อกแล้ว เพราะต้องมีการแข่งขัน
รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่าโฆษกของติ๊กต๊อกออกมากล่าวแถลงการณ์ว่า การปิดสำนักงานของติ๊กต๊อกที่แคนาดา จะทำลายงานเงินเดือนสูงในประเทศหลายร้อยตำแหน่ง ซึ่งไม่เป็นประโยชน์แก่ใครเลย โดยติ๊กต๊อกจะยื่นคัดค้านคำสั่งในชั้นศาลต่อไป