ค่ายรถยนต์เตรียมแผนรับมือทรัมป์ตั้งกำแพงภาษี วุ่นหาที่ตั้งโรงงานในสหรัฐ  

กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์แสดงความยินดีหลังจากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ภาพโดย REUTERS/Brendan McDermid
กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์แสดงความยินดีหลังจากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ภาพโดย REUTERS/Brendan McDermid

ผู้ผลิตรถยนต์เตรียมรับมือแผนขึ้นภาษีรถยนต์นำเข้าจากเม็กซิโกของทรัมป์ รวมถึงแผนลดการสนับสนุนรถยนต์ EV เล็งหาที่ตั้งโรงงานในสหรัฐ รับนโยบายทรัมป์ที่ต้องการให้ค่ายรถยนต์ย้ายฐานการผลิตเข้าสู่สหรัฐมากขึ้น

รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า สมาคมอุตสาหกรรมรถยนต์และผู้บริหารบริษัทรถยนต์หลายรายกล่าวว่า ผู้ผลิตรถยนต์กำลังเตรียมรับมือนโยบายเกี่ยวกับอุตสาหกรรมรถยนต์ของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะขึ้นอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์จากเม็กซิโกและที่อื่น ๆ รวมถึงยกเลิกนโยบายที่สนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าอีกหลายมาตรการ 

ทรัมป์เคยกล่าวไว้ว่าเขามีแผนจะเพิกถอนกฎระเบียบเกี่ยวกับรถยนต์ขององค์กรพิทักษ์สิ่งแวดล้อม (Environmental Protection Agency) หรือ EPA และกระทรวงคมนาคม (Transportation Department) ตั้งแต่วันแรกที่เขาดำรงตำแหน่ง และเตรียมพิจารณาลดขนาดหรือยกเลิกการลดหย่อนภาษีรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงมาตรการจูงใจอื่น ๆ อีกด้วย

การเปลี่ยนระเบียบข้อบังคับดังกล่าว ช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการทำกำไร แต่นำมาซึ่งคำถามเกี่ยวกับอนาคตของการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และการลงทุนด้านการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์

สมาคมคมนาคมขนส่งมลพิษเป็นศูนย์ (Zero Emission Transportation Association) ซึ่งประกอบด้วย เทสลา (Tesla) ริเวียน (Rivian) ลูซิด (Lucid) และแอลจี (LG) ผู้ผลิตแบตเตอรี่อีวี ระบุในแถลงการณ์ลงวันที่ 6 พฤศจิกายนว่าพร้อมที่จะร่วมงานกับทรัมป์ ซึ่งสี่ปีต่อจากนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญในการทำให้มั่นใจว่าเทคโนโลยีเหล่านี้จะถูกพัฒนาและถูกใช้โดยแรงงานอเมริกันในโรงงานของอเมริกันไปอีกหลายชั่วอายุคน 

หุ้นของเทสลาปิดตลาดวันที่ 6 พฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 15% เนื่องจากนักลงทุนเก็งว่าความสนิทสนมระหว่างอีลอน มัสก์และทรัมป์จะเป็นประโยชน์ต่อเทสลา

ADVERTISMENT

สมาคมรถบรรทุกอเมริกัน (American Trucking Associations) เรียกร้องให้ทรัมป์เปลี่ยนข้อจำกัดการปล่อยไอเสียที่เข้มงวดของ EPA ให้เป็นมาตรฐานการปล่อยมลพิษระดับชาติที่สามารถทำได้จริงในทางเทคนิคและสอดคล้องกับการดำเนินงานในอุตสาหกรรมมากกว่านั้น

ทรัมป์วางแผนยกเลิกการให้อิสระแก่รัฐแคลิฟอร์เนียในการกำหนดข้อจำกัดทางมลพิษเอง แบบเดียวกับที่เขาเคยทำในปี 2019 ซึ่งประธานาธิบดีโจ ไบเดน คืนอำนาจให้รัฐอีกครั้งภายหลัง ทั้งนี้ ทรัมป์ยังตัดสินใจแล้วด้วยว่าจะนำงบฯอุดหนุนการชาร์จอีวีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ไปใช้อย่างไร

ADVERTISMENT

ทรัมป์ย้ำอยู่เสมอว่า เขาจะขึ้นภาษีรถยนต์ไฟฟ้านำเข้าจากเม็กซิโกและที่อื่น ๆ เพิ่มเป็น 200% หรือมากกว่านั้น และอาจบังคับใช้กับรถยนต์จากเอเชียและยุโรปด้วย แม้ทรัมป์ต้องการลดการนำเข้ารถยนต์จากจีน แต่ทรัมป์ยังเปิดให้ค่ายรถจีนเข้ามาผลิตรถยนต์ในสหรัฐ

ทรัมป์กล่าวกับรอยเตอร์เมื่อเดือนสิงหาคมว่า “เราจะมอบสิ่งจูงใจ และถ้าจีนกับประเทศอื่น ๆ ต้องการขายรถยนต์ในสหรัฐ พวกเขาจะต้องตั้งโรงงานที่นี่และต้องจ้างแรงงานที่นี่เสียก่อน”

มาร์ก วิลเลียม (Mark William) ประธานบริษัทจัดหาทำเลที่ตั้ง สเตรติจิก ดีเวลอปเมนต์ กรุ๊ป (Strategic Development Group) คาดว่าจะมีบริษัทต่าง ๆ มองหาทำเลที่ตั้งโรงงานมากขึ้น แต่กำแพงภาษีจะทำให้ต้นทุนต่าง ๆ สูงขึ้นด้วย “ถ้าคุณต้องการตัดจีนออกไปจากห่วงโซ่การผลิตส่วนประกอบรถยนต์ โดยไม่พึ่งเม็กซิโก ผมก็ไม่รู้แล้วว่าเราจะไปหาพื้นที่จากไหนในสหรัฐ ผมคิดว่าเราต้องอาศัยเม็กซิโกมากกว่าเดิม หากจะตัดจีนออกไปจริง ๆ”

จองอินคโย (Inkyo Cheong) รัฐมนตรีกระทรวงการค้าเกาหลีใต้กล่าวในวันที่ 6 พฤศจิกายนว่า เขาหวังให้บริษัทเกาหลีใต้ลงทุนในสหรัฐมากขึ้น หากทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้า

ชินจิ อาโอยามะ (Shinji Aoyama) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) ของฮอนด้า มอเตอร์ กล่าวว่า กำลังการผลิตในเม็กซิโกของฮอนด้าอยู่ที่ประมาณ 200,000 คันต่อปี ซึ่ง 80% ของการผลิตถูกส่งออกไปยังสหรัฐ หากสหรัฐขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จากเม็กซิโกอย่างถาวรแล้ว ฮอนด้าจะพิจารณาย้ายฐานการผลิต

ด้านโตโยต้าผลิตรถบรรทุกรุ่น ทาโคม่า (Tacoma) ในโรงงานสองแห่งที่เม็กซิโก และขายในสหรัฐมากกว่า 230,000 คันในปี 2023 

แหล่งข่าวผู้ใกล้ชิดโตโยต้ากล่าวกับทางรอยเตอร์ว่า ภาษีที่สูงขึ้นมากของทรัมป์จะทำให้โตโยต้าย้ายการผลิตรุ่นทาโคม่าไปยังซานอันโตนิโอ (San Antonio) รัฐเท็กซัส อย่างไรก็ตาม โฆษกของโตโยต้าปฏิเสธที่จะให้ความเห็น