โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐตั้งซูซี่ ไวลส์ ผู้จัดการทีมหาเสียงขึ้นเป็นหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว ถือเป็นผู้หญิงคนแรกที่ดำรงตำแหน่งนี้ ด้านแหล่งข่าวระบุว่า ทรัมป์กำลังพิจารณาแต่งตั้งทูต รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศด้วย
วันที่ 8 พฤศจิกายน 2024 รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐเริ่มตั้งทีมงานทำเนียบขาว ซึ่งเริ่มด้วยการประกาศแต่งตั้งซูซี่ ไวลส์ ผู้จัดการทีมหาเสียงให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว ถือเป็นการมอบตำแหน่งสูงสุดให้กับผู้ปฏิบัติงานทางการเมืองที่ช่วยให้พรรครีพับลิกันชนะการเลือกตั้ง
ซูซี่ ไวลส์ (Susie Wiles) อายุ 67 ปี ที่ปรึกษาอาวุโสของทรัมป์จะเป็นผู้หญิงคนแรกที่ดำรงตำแหน่งนี้ในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา “ซูซีเป็นคนเข้มแข็ง ฉลาด มีนวัตกรรม และเป็นที่ชื่นชมและเคารพนับถือโดยทั่วไป” ทรัมป์กล่าวในแถลงการณ์
ทั้งนี้ ทรัมป์ยังคงเก็บตัวอยู่ที่คฤหาสน์มาร์อาลาโก ในเมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริดา หลังจากเอาชนะคามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน
ตำแหน่งหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว (White House Chief of Staff-of-Staff) หรือที่มักรู้จักแบบไม่เป็นทางการในตำแหน่ง “แม่บ้านหรือพ่อบ้านทำเนียบขาว” ในฐานะ “ผู้คัดกรองประตู” ของประธานาธิบดี หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ฯมักจะมีอิทธิพลอย่างมาก ซึ่งกล่าวคือผู้ดำรงตำแหน่งนี้จะบริหารจัดการเจ้าหน้าที่ทำเนียบประธานาธิบดี จัดระเบียบเวลา และตารางงานของประธานาธิบดี และติดต่อกับหน่วยงานของรัฐและสมาชิกรัฐสภาอื่น ๆ ด้วย
ไวลส์เคยทำงานในแคมเปญหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของโรนัลด์ เรแกน ในปี 1980 และช่วยให้รอน เดอซานติส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา จากพรรครีพับลิกันชนะการเลือกตั้งในปี 2018 นอกจากนี้ เธอทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาอาวุโสในการหาเสียงของทรัมป์ในปี 2016 และ 2020 ด้วย
ไวลส์เป็นนักยุทธศาสตร์การเมืองที่อาศัยในรัฐฟลอริดามาอย่างยาวนาน ส่วนคริส ลาซิวิตา (Chris LaCivita) ผู้จัดการทีมหาเสียงอีกคนได้รับการยกย่องในการบริหารการหาเสียงที่มีวินัยมากขึ้นในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งที่ 3 ของทรัมป์เมื่อเทียบกับแคมเปญหาเสียงในอดีต
ในระหว่างดำรงตำแหน่งในปี 2017-2021 ทรัมป์มีหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวถึง 4 คน ซึ่งถือเป็นจำนวนที่มากผิดปกติ ขณะที่ทั้งสี่คนนี้ต้องรับมือประธานาธิบดีทรัมป์ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ระเบียบวินัยในขณะนั้น ซึ่งหลายคนที่เคยทำงานกับไวลส์กล่าวว่า เธอจะให้ความมั่นคงและคำแนะนำที่ชาญฉลาดแก่ทรัมป์ได้
สำหรับการแต่งตั้งบุคคลดำรงตำแหน่งต่างๆในกระทรวงการต่างประเทศ แหล่งข่าวกล่าวว่า ทรัมป์อยู่ระหว่างการพิจาณาแต่งตั้งนางสาวเอลีส สเตฟานิก (Elise Stefanik) สส.นิวยอร์กจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นของทรัมป์ ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ
สำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ ทรัมป์อยู่ระหว่างพิจารณาตั้งริชาร์ด เกรเนลล์ (Richard Grenell) อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเยอรมนี ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรักษาการหัวหน้าหน่วยข่าวกรองในช่วงที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสมัยแรก และเมื่อเร็ว ๆ นี้ เกรเนลล์อยู่กับทรัมป์ด้วย เมื่อทรัมป์พบกับโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนที่นครนิวยอร์ก นอกจากนี้ ยังมีบิล แฮเกอร์ตี้ (Bill Hagerty) อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำญี่ปุ่นอยู่ในลิตส์การตัดสินใจในตำแหน่งสำคัญนี้ด้วย