นิสสัน มอเตอร์ บริษัทรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023 หรือในรอบ 18 เดือน และกลายเป็นบริษัทญี่ปุ่นที่ความเสี่ยงสูงเป็นอันดับ 4 หลังจากที่ปรับลดการคาดการณ์กำไรและประกาศเลิกจ้างพนักงาน 9,000 คน
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รางานว่า ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของ นิสสัน มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน (Nissan Motor Corporation) พุ่งสูงขึ้น และราคาหุ้นร่วงลงถึง 10% ในการซื้อขายช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายนนี้ หลังจากที่ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นรายนี้ปรับลดการคาดการณ์กำไรในปีงบการเงินนี้ และประกาศว่าจะเลิกจ้างพนักงาน 9,000 คน เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ซึ่งเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับสถานะเครดิตของบริษัท
ตามข้อมูลจากซีเอ็มเอ (CMA) ผู้ค้าตราสารอนุพันธ์เพื่อประกันการผิดนัดชำระหนี้ (Credit-default swap trader) ค่าธรรมเนียมคุ้มครองความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ของนิสสันอยู่ที่ 180 เบซิสพอยต์ (Basis Point) ในเช้าวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน โดยพุ่งสูงขึ้นประมาณ 13 เบซิสพอยต์ จาก 178 เบซิสพอยต์ ในวันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023
เมื่อเดือนที่แล้ว อนุพันธ์ป้องกันความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ (CDS) ของนิสสันสูงแซงหน้า CDS ของ ชาร์ป คอร์ปอเรชัน (Sharp Corporation) ขึ้นไปอยู่อันดับที่ 4 ของญี่ปุ่น กล่าวคือ เป็นบริษัทที่ตลาดมองว่ามีความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้สูงเป็นอันดับ 4 ของญี่ปุ่น
นิสสันพยายามดิ้นรนเพื่อรับมือกับสภาวะอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ยากลำบากยิ่งขึ้น และพยายามแก้ไขจุดอ่อนภายในบริษัท ซึ่งทำให้ต้องลดเงินเดือน ลดการผลิต และลดตัวเลขพยากรณ์กำไร นอกจากนี้ นิสสันยังเตรียมขายหุ้นบางส่วนในมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชัน (Mitsubishi Motors Corporation) เพราะได้ใช้เงินสดไปมากถึง 448,300 ล้านเยน (ประมาณ 99,880 ล้านบาท) ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
บริษัทหลักทรัพย์ มิซูโฮ ซีเคียวริตีส์ (Mizuho Securities Co.) ได้ปรับลดแนวโน้มเครดิต (Credit Outlook) ของนิสสันลงจาก “คงที่” (Stable) เป็น “ลบเล็กน้อย” (Slightly Negative)
เค็งโงะ โคเอทากะ (Kengo Koetaka) นักวิเคราะห์ของมิซูโฮเขียนในรายงานโดยอ้างถึงคาดการณ์ผลการดำเนินงานของนิสสันว่า ผลกำไรของธุรกิจยานยนต์ของนิสสันจะลดลงตั้งแต่ปีงบฯปัจจุบัน (เมษายน 2024-มีนาคม 2025) ไปจนถึงปีงบฯถัดไปซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2026 เนื่องจากสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในสหรัฐแย่ลง และมีการบันทึกค่าใช้จ่ายครั้งเดียวที่เกี่ยวข้องกับการพลิกกลับสถานการณ์ของบริษัท
ทั้งนี้ นิสสันได้รับการจัดอันดับการลงทุนในระดับต่ำสุดจาก มูดี้ส์ (Moody’s) และฟิทช์ เรทติ้งส์ (Fitch Ratings) และได้รับการจัดอันดับขยะที่ BB+ จาก เอสแอนด์พี (S&P) ขณะที่บริษัทจัดอันดับเครดิตในญี่ปุ่นอย่าง เรตติง แอนด์ อินเวสต์เมนต์ (Rating & Investment) และ เจแปน เครดิต เรตติง เอเจนซี (Japan Credit Rating Agency) ต่างก็ให้เกรด A ซึ่งเป็นระดับสูงเป็นอันดับ 6