เกาหลีใต้เสนอร่างกฎหมายชิป เตรียมรับมือความเสี่ยงจาก โดนัลด์ ทรัมป์

เกาหลีใต้ ซัมซุง
ธงเกาหลีใต้และธงซัมซุง หน้าอาคารสำนักงานซัมซุงในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ (ภาพโดย Jung Yeon-je / AFP)

พรรครัฐบาลเกาหลีใต้เสนอร่างกฎหมายชิปฉบับพิเศษ ให้เงินหนุนบริษัทชิปและยกเว้นข้อจำกัดเวลาทำงาน เพื่อเตรียมรับมือกับความเสี่ยงจากมาตรการของโดนัลด์ ทรัมป์ 

นิกเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) รายงานว่า ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2024 พรรครัฐบาลของเกาหลีใต้เสนอร่างกฎหมายชิปฉบับพิเศษ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ (ชิป) ได้รับเงินอุดหนุน และได้รับการยกเว้นจากการกำหนดเพดานเวลาทำงาน เพื่อรับมือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากมาตรการของโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ว่าที่ประธานาธิบดีคนต่อไปของสหรัฐ

ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะยกเลิกการให้เงินอุดหนุนชิปของรัฐบาลกลางแก่บริษัท ไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ (TSMC) ของไต้หวัน ซัมซุง (Samsung) และเอเค ไฮนิกซ์ (SK Hynix) ของเกาหลีใต้ และบริษัทอื่น ๆ ซึ่งได้สร้างความกังวลให้แก่อุตสาหกรรมและนักลงทุน

อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจเกาหลีใต้ซึ่งต้องพึ่งพาการค้าระหว่างประเทศในสัดส่วนที่สูง โดยการส่งออกชิปคิดเป็น 16% ของการส่งออกทั้งหมดของเกาหลีใต้ในปี 2023 

เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า ประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล (Yoon Suk Yeol) ของเกาหลีใต้ได้เตือนถึงความเสี่ยงที่เกิดจากการที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ขู่จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตราสูง ซึ่งอาจทำให้บริษัทจีนที่เป็นคู่แข่งของบริษัทเกาหลีใต้ลดราคาส่งออกและบั่นทอนการดำเนินงานของอุตสาหกรรมชิปของเกาหลีใต้ในต่างแดน 

ลี ชุลกยู (Lee Chul-gyu) สมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนร่างกฎหมายนี้กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้จะช่วยให้บริษัทของเกาหลีใต้รับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ได้ เนื่องจากจีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน และสหรัฐ ล้วนให้เงินอุดหนุนแก่ผู้ผลิตชิป ท่ามกลางสงครามการค้าเซมิคอนดักเตอร์ระหว่างจีนกับสหรัฐ 

Advertisment

ทั้งนี้ หากร่างกฎหมายนี้ผ่านและถูกบังคับใช้ พนักงานบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและพัฒนาจะได้รับอนุญาตให้ทำงานได้นานขึ้นกว่าที่กฎหมายแรงงานจำกัดชั่วโมงการทำงานต่อสัปดาห์สูงสุด 52 ชั่วโมง 

ร่างกฎหมายดังกล่าวซึ่งจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากพรรคฝ่ายค้านหลัก ถูกเสนอในขณะที่ผู้ผลิตชิปสัญชาติเกาหลีใต้ เช่น ซัมซุง อิเลกทรอนิกส์ (Samsung Electronics) เองก็กำลังเตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้นจากคู่แข่งในจีน ไต้หวัน และที่อื่น ๆ

Advertisment