
สหรัฐกล่าวหาว่าจีนกระทำการจารกรรมทางไซเบอร์กับบริษัทโทรคมนาคมครั้งสำคัญหลายครั้ง เพื่อขโมยบันทึกการโทร.จากผู้ใช้งานและขัดขวางการสื่อสารของคนในแวดวงการเมืองและคนในรัฐบาล
เจ้าหน้าที่สหรัฐระบุในแถลงการณ์ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2024 ว่า แฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนโดยรัฐบาลจีนได้กระทำการจารกรรมทางไซเบอร์ที่สำคัญหลายครั้ง และเจาะระบบของบริษัทโทรคมนาคมหลายแห่ง พร้อมทั้งยืนยันรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการโจมตีทางไซเบอร์ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติอย่างรุนแรง
เจ้าหน้าที่ระบุว่า แฮกเกอร์แทรกซึมเครือข่ายของบริษัทโทรคมนาคมหลายแห่งเพื่อขโมยบันทึกการโทร.จากผู้ใช้งานและขัดขวางการสื่อสารของคนในแวดวงการเมืองและคนในรัฐบาลอย่าง “จำกัดจำนวน” นอกจากนี้ แฮกเกอร์ยังได้คัดลอกข้อมูลที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับคำร้องให้มีการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งดำเนินตามคำสั่งศาลอีกด้วย
แถลงการณ์ระบุโดยไม่ได้กล่าวถึงชื่อของบริษัทโทรคมนาคมที่ได้รับผลกระทบอย่างเจาะจงว่า ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าหากสืบสวนต่อไป จะเข้าใจเกี่ยวกับการจารกรรมที่เกิดมากขึ้น โดยสำนักงานสืบสวนกลาง (FBI) และสำนักงานความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์และโครงสร้างพื้นฐานของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (US Cybersecurity and Infrastructure Security Agency) จะให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคในประเด็นดังกล่าว พร้อมทำงานร่วมกับผู้ที่อาจเป็นเหยื่อ
วอลล์สตรีต เจอร์นัล (Wall Street Journal) รายงานไว้ก่อนหน้านี้ในเดือนตุลาคมว่า เอทีแอนด์ที อิงก์. (AT&T Inc.) และเวริซอน คอมมิวนิเคชั่น อิงก์. (Verizon Communications Inc.) คือหนึ่งในบรรดาผู้เสียหายจากการเจาะระบบ ซึ่งแฮกเกอร์สามารถเข้าถึงเครือข่ายการดักฟังที่ได้รับอนุญาตจากศาลของรัฐบาลกลางได้
บลูมเบิร์กอ้างอิงแหล่งข่าวว่า เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองคาดว่ากลุ่มแฮกเกอร์ชาวจีนซึ่งไมโครซอฟท์ (Microsoft) เรียกว่าซอลต์ ไต้ฝุ่น (Salt Typhoon) อาจแทรกซึมอยู่ในบริษัทโทรคมนาคมนานหลายเดือน จนค้นพบเส้นทางเข้าถึงการดักฟังที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
นิวยอร์ก ไทมส์ (New York Times) รายงานว่า เป็นที่เชื่อกันว่ากลุ่มแฮกเกอร์มีเป้าหมายการจารกรรมไปที่เบอร์โทรศัพท์ของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และเจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดีคนต่อไปของสหรัฐ รวมถึงสมาชิกในครอบครัวของทรัมป์ ตลอดจนสมาชิกในทีมรณรงค์หาเสียงของคามาลา แฮร์ริส
บลูมเบิร์กอ้างอิงแหล่งข่าวว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนยังคงต่อกรกับการโจมตีทางไซเบอร์อยู่ และยังไม่เข้าใจภาพรวมทั้งหมดดีพอ ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลาตรวจสอบเพิ่มเติมว่าใครตกเป็นเป้าหมายของการจารกรรมบ้าง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสหรัฐสามารถดักทางกลุ่มแฮกเกอร์ได้หมดแล้วจริง ๆ โดยการดำเนินการทั้งหมดยังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวน และทางการสหรัฐได้ชี้แจงไปยังบริษัทโทรคมนาคมที่ตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มซอลต์ ไต้ฝุ่นต่าง ๆ แล้ว
อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแค่บริษัทโทรคมนาคมขนาดใหญ่เท่านั้น ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในระดับภูมิภาคเองก็ถูกเจาะระบบด้วยเช่นกัน ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าซอลต์ ไต้ฝุ่นรับสัญญาณเสียงผ่านระบบดักฟังโดยเลือกหมายเลขที่ต้องการสอดแนมผ่านทางเครือข่าย จึงทำให้สามารถผ่านมาตรการป้องกันมาได้
สัปดาห์ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่รัฐสภาได้รับคำชี้แจงลับจากเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองเกี่ยวกับการเจาะระบบของซอลต์ ไต้ฝุ่น ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐสภาหลายฝ่ายเป็นกังวลอย่างมาก
เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองระบุว่า การจารกรรมข้อมูลในครั้งนี้น่ากังวลอย่างมาก เนื่องจากเกิดขึ้นบนแผ่นดินสหรัฐ ทั้งยังเป็นพื้นที่ซึ่งเจ้าหน้าที่คิดว่าปลอดภัยแล้ว ซึ่งคำพูดดังกล่าวยิ่งย้ำเติมให้การจารกรรมทางไซเบอร์ในครั้งนี้ดูน่าหวาดกลัวมากขึ้น เพราะอาจส่งผลกระทบได้หลายภาคส่วน