
โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอนุญาตให้ยูเครนใช้ระบบขีปนาวุธ ATACMS ของสหรัฐโจมตีเข้าไปในภูมิภาคเคิร์สก์ของรัสซียได้ เพื่อตอบสนองที่รัสเซียอนุญาตให้ทหารเกาหลีเหนือเข้าร่วมรบในสงคราม
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2024 รอยเตอร์ (Reuters) และบีบีซี (BBC) รายงานว่า โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐโจมตีภายในดินแดนรัสเซียได้ นับเป็นการเปลี่ยนนโยบายสหรัฐครั้งใหญ่ เมื่อ 17 พฤศจิกายน ตามเวลาท้องถิ่น
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเป็นเวลาหลายเดือนที่โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนเรียกร้องให้ยกเลิกข้อจำกัดการใช้ระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธีกองทัพบก หรือ Army Tactical Missile System (ATACMS) เพื่อที่ยูเครนสามารถโจมตีนอกพรมแดนได้
สำหรับระบบขีปนาวุธ ATACMS สามารถโจมตีเป้าหมายที่อยู่ไกลออกไปสูงสุดถึง 300 กิโลเมตร และยากต่อการสกัดกั้น เนื่องจากมีความเร็วสูง
ขณะที่เซเลนสกีไม่ยืนยันหรือปฏิเสธเกี่ยวกับเรื่องนี้ สื่อหลายสำนักรวมถึงซีเอ็นเอ็น (CNN) รายงานว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐหลายคนยืนยันเกี่ยวกับการอนุมัติของไบเดน
ก่อนหน้านี้ วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียเตือนชาติตะวันตกไม่ให้ดำเนินการดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่า การกระทำนี้จะแสดงว่าพันธมิตรองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต้เข้าร่วมสงครามในยูเครนโดยตรง
หลังจากมีรายงานข่าว ว่าปูตินยังไม่ได้ออกมาตอบสนอง ขณะที่นักการเมืองรัสเซียคนอื่น ๆ ระบุว่า เป็นการยกระดับสถานการณ์สงครามที่รุนแรง
ทำไมไบเดนอนุญาต
บีบีซี (BBC) รายงานว่า รัฐบาลไบเดนซึ่งกำลังจะหมดวาระกำลังบอกกับยูเครน ว่าจะสนับสนุนความพยายามของยูเครนในการยึดครองดินแดนรัสเซียจำนวนเล็กน้อยที่ฝ่ายยูเครนยึดครองอยู่ในปัจจุบัน เพื่อใช้เป็นเครื่องต่อรองที่ทรงพลังสำหรับการเจรจาใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
เซอร์ฮีย์ คูซาน (Serhiy Kuzan) ประธานศูนย์ความร่วมมือและความมั่นคงยูเครนที่ตั้งอยู่ในกรุงเคียฟมองว่าการตัดสินใจของไบเดนนั้นจะทำให้กองกำลังของยูเครนมีความเท่าเทียมกันกับฝ่ายรัสเซียมากขึ้น
ข้อมูลจากนิวยอร์กไทม์ (New York Times) และวอชิงตันโพสต์ (Washington Post) ซึ่งรายงานอ้างเจ้าหน้าที่สหรัฐที่ไม่ต้องการให้เปิดเผยชื่อระบุว่า การอนุมัติให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธนั้น เพื่อตอบสนองการตัดสินใจของรัสเซียที่ให้ทหารเกาหลีเหนือเข้าร่วมรบในสงครามยูเครน ทั้งนี้ ฝ่ายยูเครนประเมินว่ามีทหารเกาหลีเหนือราว 11,000 นายอยู่ในภูมิภาคเคิร์สก์
นายคูซานกล่าวว่า การตัดสินใจของไบเดนเกิดขึ้นทันเวลาพอดี ในการตอบโต้การโจมตีครั้งใหญ่ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากฝ่ายรัสเซียและเกาหลีเหนือ ซึ่งต้องการขับไล่กองกำลังยูเครนออกจากภูมิภาคเคิร์สก์ของรัสเซีย โดยคาดว่าการโจมตีจะเกิดขึ้นภายในไม่กี่วัน
การตัดสินใจของไบเดนยังสามารถทำให้อังกฤษและฝรั่งเศสอนุญาตยูเครนให้ใช้ขีปนาวุธระยะไกลอย่างสตอร์ม ชาโดว์ โจมตีภายในดินแดนรัสเซียได้ด้วย
เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา รัสเซียโจมตียูเครนด้วยขีปนาวุธราว 120 ลูก โดรน 90 ลำ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย ซึ่งคาดว่าเป็นการโจมตีที่ประสานหลายหน่วยบัญชาการเข้าด้วยกันครั้งใหญ่ที่สุดของรัสเซียในรอบหลายเดือน
สถาบันคีลเพื่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยอิสระของเยอรมนีระบุว่า สหรัฐเป็นผู้ส่งอาวุธรายใหญ่ที่สุดให้ยูเครน โดยได้ส่งแล้วหรือให้คำมั่นว่าจะส่งให้มูลค่ารวม 55,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.9 ล้านล้านบาท)