
นักเศรษฐศาสตร์คาด จีดีพีเยอรมนีอาจติดลบเป็นปีที่สองติดต่อกัน จากความไม่แน่นอนทางการเมือง ทั้งการคว้าชัยของโดนัลด์ ทรัมป์ และความแตกแยกของพรรคร่วมรัฐบาลในเยอรมนี
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2024 ว่า จากการสำรวจของบลูมเบิร์กในเดือนพฤศจิกายนพบว่า นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าเศรษฐกิจเยอรมนีอาจหดตัวเป็นปีที่สองติดต่อกัน โดยหดตัวลง 0.1% ในปี 2024 หลังจากที่ตกลง 0.3% ในปี 2023 อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจในเดือนตุลาคมก่อนหน้านี้ นักเศรษฐศาสตร์เคยคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตชะลอตัวในปีนี้
ส่วนปี 2025 นักเศรษฐศาสตร์ปรับคาดการณ์ของทั้งปีลงจากเติบโต 0.8% เหลือโต 0.7% แต่ไม่ปรับคาดการณ์ในปี 2026 เหลือโต 1.3% เท่าเดิม
เยอรมนี ประเทศขนาดเศรษฐกิจใหญ่สุดในยุโรป สามารถหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้คาดไม่ถึง จากการเติบโต 0.2% ในไตรมาสสาม หลังจากที่หดตัวลง 0.3% ในไตรมาสสอง ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับปรุงแล้ว ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับปัจจัยการขับเคลื่อนเศรษฐกิจรายไตรมาสเพิ่มเติมจะประกาศในวันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน
ขณะเดียวกัน แนวโน้มทางเศรษฐกิจยังคงมืดมนจากความไม่แน่นอนทางการเมือง เนื่องจากโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ และความแตกแยกของพรรคร่วมรัฐบาลเยอรมัน โดยมีต้นเหตุจากการปลดคริสเตียน ลินด์เนอร์ (Christian Lindner) ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง จนนำไปสู่การถอนตัวของพรรคร่วมรัฐบาล
โยอาคิม นาเกิล (Joachim Nagel) ผู้ว่าการธนาคารกลางของเยอรมนี หรือบุนเดสแบงก์ (Bundesbank) เตือนว่าภาษีการค้าของทรัมป์อาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของเยอรมนีสูงถึง 1% ของจีดีพี และหากเศรษฐกิจเยอรมันในปี 2025 เติบโตต่ำกว่า 1% แม้ไม่มีผลกระทบทางภาษีของสหรัฐเลยก็ตาม จีดีพีเยอรมันอาจตกอยู่ในแดนลบได้จริง ๆ
จากแบบสำรวจที่จัดทำโดยบลูมเบิร์ก นักเศรษฐศาสตร์มองผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์แตกต่างกันไป โดยนักเศรษฐศาสตร์บางรายคาดว่าจีดีพีอาจฉุดลง 0.1 หรือ 0.2 จุดเปอร์เซ็นต์ (Percentage Point) ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารแลนด์แบงก์บาเดิน-เวือร์ทเทมแบร์ก (Landesbank Baden-Württemberg) มองว่าจีดีพีในปี 2025 จะต่ำลงกว่าเดิม 0.9 จุดเปอร์เซ็นต์