
รัฐมนตรีกระทรวงการคลังออสเตรเลียกล่าวถ้อยแถลงต่อรัฐสภาว่า งบประมาณของออสเตรเลียจะถูกปรับลดการเติบโตน้อยลงกว่าเดิม เนื่องจากตลาดแรงงานเริ่มคลายตัว และการค้ากับจีนซบเซา ราคาแร่เหล็กร่วงลงกว่า 30%
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า จิม ชาลเมอร์ส (Jim Chalmers) รัฐมนตรีกระทรวงการคลังออสเตรเลียกล่าวว่า ออสเตรเลียต้องเผชิญความท้าทายทางการคลังมากขึ้น เหตุคู่ค้าคนสำคัญอย่างจีนมีการค้าชะลอตัวลง และตลาดแรงงานในประเทศเริ่มส่งสัญญาณคลายตัว ทำให้มีการปรับลดรายรับจากภาษีเงินได้นิติบุคคล
ในถ้อยแถลงของรัฐมนตรีที่มีต่อรัฐสภา (Ministerial Statements) เมื่อวันพุธที่ 20 พฤศจิกายน 2024 ชาลเมอร์สระบุถึงตัวแปรทางเศรษฐกิจบางรายการ สำหรับการทบทวนงบประมาณกลางปี ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในเดือนธันวาคม และคาดว่าจะเผยแพร่ออกมาก่อนการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม โดยผลสำรวจความคิดเห็นบ่งชี้ว่าประชาชนมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยยังคงสูงและอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่
ชาลเมอร์สกล่าวกับรัฐสภาว่า งบประมาณถูกบีบเนื่องจากตลาดแรงงานในประเทศเริ่มคลายตัวลง และเศรษฐกิจจีนที่กำลังเผชิญความท้าทายเชิงโครงสร้าง โดยสังเกตได้ในราคาแร่แหล็กที่ตกลงกว่า 30% นับตั้งแต่ต้นปี ด้วยปัจจัยเหล่านี้ กระทรวงการคลังจึงคาดว่าการปรับปรุงงบประมาณกลางปีจะมีขนาดเล็กลงกว่าเดิม
นับตั้งแต่ที่รัฐบาลพรรคแรงงานได้รับเลือกตั้งเมื่อกลางปี 2022 รัฐมนตรีกระทรวงการคลังได้คาดการณ์ถึงการขาดดุลงบประมาณครั้งสำคัญ จึงปรับปรุงเรื่อยมา จนรัฐบาลมีงบประมาณเกินดุลได้สำเร็จ เป็นผลจากอัตราการว่างงานที่ต่ำกว่า 3% ในช่วงเวลาดังกล่าว ทำให้รัฐบาลสามารถเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้น และลดงบประมาณด้านสวัสดิการลง โดยมีราคาแร่เหล็กอยู่ที่ 100 ดอลลาร์ (ราว 3,459 บาท) ต่อตัน
งบประมาณประจำปี 2025 ที่เผยแพร่เมื่อเดือนพฤษภาคม รัฐบาลคาดการณ์ว่าจะมีงบประมาณขาดดุล 28,300 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 639,000 ล้านบาท) และขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 42,800 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 967,300 ล้านบาท) ในปี 2026
กระทรวงการคลังคาดการณ์ที่จะปรับลดรายรับใบกำกับภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2020 โดยชาลเมอร์สระบุว่า ในการปรับปรุงงบประมาณทั้งสี่ครั้ง ออสเตรเลียมีการปรับเพิ่มรายรับโดยเฉลี่ย 80,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 1.8 ล้านบาท)
ชาลเมอร์สพยายามยับยั้งการใช้จ่ายภาครัฐ แม้ว่าเศรษฐกิจจะมีการเติบโตชะลอตัว จากอัตราดอกเบี้ย 4.35% ที่สูงสุดในรอบ 13 ปี ชาลเมอร์สต้องการช่วยระงับอัตราเงินเฟ้อ เพื่อให้ธนาคารกลางสามารถลดอัตราดอกเบี้ยลงได้ก่อนการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น
แม้ตลาดแรงงานจะคลายตัว แต่อัตราการว่างงานยังคงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.1% และความเชื่อมั่นผู้บริโภคส่งสัญญาณฟื้นตัวบ้างแล้ว
ชาลเมอร์สกล่าวว่า แผนและการเตรียมการของเขาทำให้เกิดซอฟต์แลนดิ้งดังกล่าวขึ้นมา