ICC ออกหมายจับเนทันยาฮู-ผบ.ฮามาส ข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม

เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล โยอาฟ กัลแลนต์ อดีตรมว.กลาโหมอิสราเอล อิบราฮิม อัล-มาสรี ผู้นำทางปีกการทหารของฮามาส (รอยเตอร์)

ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ออกหมายจับเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลและอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูง รวมถึงผู้บัญชาการทหารฮามาสในข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม

วันที่ 22 พฤศจิกายน 2024 รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ออกหมายจับเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล โยอาฟ กัลแลนต์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอิสราเอล และอิบราฮิม อัล-มาสรี ผู้บัญชาการทางทหารของฮามาสในข้อกล่าวหาก่ออาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมที่เป็นภัยต่อมนุษยชาติ เมื่อ 21 พฤศจิกายน

อิบราฮิม อัล-มาสรี (ภาพ เอเอฟพี)

ในการตัดสินใจออกหมายจับ องค์คณะผู้พิพากษาศาลระบุว่า มีเหตุผลที่จะเชื่อถือได้ว่าเนทันยาฮูและกัลแลนต์ได้กระทำการที่รวมถึงการฆาตกรรม การข่มเหงรังแกและความอดอยากหิวโหยเพื่อใช้เป็นอาวุธในสงคราม ส่วนหนึ่งของการโจมตีที่เป็นภัยต่อพลเรือนกาซาอย่างเป็นระบบและกว้างขวาง

อีกทั้งมีเหตุอันที่จะเชื่อได้ว่าการปิดล้อมกาซาและการขาดแคลนอาหาร น้ำ ไฟฟ้า เชื้อเพลิงและเวชภัณฑ์ได้ก่อให้เกิดสภาพความเป็นอยู่ที่ได้คิดคำนวณไว้แล้วว่า จะนำมาซึ่งการทำลายล้างพลเรือนบางส่วนในกาซา ซึ่งส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิต รวมถึงเด็ก ๆ ด้วย เนื่องจากขาดสารอาหารและร่างกายขาดน้ำ

การออกหมายจับดังกล่าวทำให้เกิดความไม่พอใจอย่างรุนแรงในอิสราเอล โดยระบุว่า น่าอัปยศอดสูและไร้สาระ ส่วนชาวกาซาแสดงความหวังว่า การออกหมายจับบุคคลดังกล่าวจะช่วยยุติความรุนแรงและนำผู้ที่ก่ออาชญากรรมสงครามมาลงโทษเพื่อความยุติธรรม ส่วนฮามาสยินดีต่อการออกหมายจับฝ่ายอิสราเอล เนื่องจากเป็นก้าวแรกสู่ความยุติธรรม

ไอซีซีออกหมายจับมาสรี ผู้นำทางปีกทหารของฮามาสในข้อหาการสังหารหมู่เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 การโจมตีอิสราเอลทำให้เกิดสงครามกาซาและยังรวมถึงข้อหาข่มขืนและการจับตัวประกัน

ADVERTISMENT

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายอิสราเอลระบุว่า ตนได้สังหารมาสรี หรือที่รู้จักกันในชื่อโมฮัมเหม็ด เดอีฟ (Mohammed Deif) ในการโจมตีทางอากาศเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ฮามาสไม่ได้ยืนยันหรือปฏิเสธการเสียชีวิตของผู้นำรายนี้ ซึ่งอัยการระบุว่า จะยังคงรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเสียชีวิตของเขาต่อไป

อิสราเอลไม่ยอมรับอำนาจศาลและปฏิเสธการก่ออาชญากรรมสงครามในกาซา 

ADVERTISMENT

สำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวว่า การตัดสินใจของศาลเป็นการต่อต้านชาวยิวและเนทันยาฮูจะไม่ยอมจำนนต่อแรงกดดันจนกว่าจะบรรลุวัตถุประสงค์ของสงคราม

ด้านสหรัฐ พันธมิตรสำคัญของอิสราเอล ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกไอซีซี ไม่ยอมรับการออกหมายจับดังกล่าวด้วยเช่นกัน

โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐประจำทำเนียบขาวระบุว่า เรายังคงกังวลอย่างยิ่งจากกรณีการเร่งรีบของอัยการไอซีซีในการออกหมายจับและข้อผิดพลาดในกระบวนการที่น่าวิตกกังวล ซึ่งนำไปสู่การตัดสินใจออกหมายจับครั้งนี้ และยังระบุอีกว่า สหรัฐกำลังหารือกับพันธมิตรเกี่ยวกับขั้นต่อไป

การออกหมายจับดังกล่าวเกิดขึ้นตามที่คาริม ข่าน อัยการไอซีซีประกาศตั้งแต่เมื่อ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า เขากำลังร้องขอต่อศาลให้ออกหมายจับผู้นำอิสราเอลและฮามาสในข้อกล่าวหาก่ออาชญากรรมสงครามที่เชื่อมโยงกับการโจมตีอิสราเอลของฮามาสและการตอบโต้ทางทหารในกาซาของอิสราเอล ซึ่งทั้งผู้นำอิสราเอลและฮามาสต่างปฏิเสธ

ศาลไอซีซีซีไม่มีกองกำลังตำรวจของตนเองในการจับกุม และจึงอาศัยประเทศสมาชิก 124 ประเทศในการดำเนินการดังกล่าว โดยมีเพียงวิธีทางการทูตที่จำกัดในการบังคับให้ทำ หากรัฐสมาชิกไม่ให้ความร่วมมือ

เจ้าหน้าที่กาซาระบุว่า การโจมตีทางทหารของอิสราเอลในกาซา ซึ่งดำเนินมา 13 เดือนแล้วนั้น ทำให้ประชาชนปาเลสไตน์เสียชีวิตราว 44,000 ราย และต้องไร้ที่อยู่เกือบทั้งหมด ขณะเดียวกันก่อให้เกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรม

ฝ่ายอิสราเอลระบุว่า อิสราเอลตอบโต้ต่อเหตุการณ์เมื่อ 7 ตุลาคมปีก่อนหน้า ซึ่งฮามาสบุกเข้าดินแดนอิสราเอลทางใต้สังหารประชาชน 1,200 ราย และจับตัวประกันอีกกว่า 250 คน