
เยอรมนีปรับลดตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจไตรมาสสามลงเหลือโต 0.1% จากการเติบโต 0.2% ที่รายงานไว้คราวแรก
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า จากการรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนีเมื่อวันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2024 เผยว่า เยอรมนีปรับลดตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสสามลงจาก 0.2% ที่รายงานไว้ในครั้งแรกเหลือ 0.1% เป็นผลจากการส่งออกที่ลดลง ซึ่งฉุดการเติบโตที่ขับเคลื่อนโดยการใช้จ่ายของภาครัฐและผู้บริโภคลง
นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2022 เป็นต้นมา เยอรมนีต้องพบกับตัวเลขที่แสดงถึงการหดตัวในทุก ๆ สองไตรมาส และบุนเดสแบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารกลางเยอรมนีคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะซบเซาต่อไปในช่วงปัจจุบัน
นอกจากนี้ แนวโน้มทางเศรษฐกิจของเยอรมนียังคงมืดมนจากความไม่แน่นอนทางการเมือง เนื่องจากโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ และความแตกแยกของพรรคร่วมรัฐบาลเยอรมัน โดยมีต้นเหตุจากการปลดคริสเตียน ลินด์เนอร์ (Christian Lindner) ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง จนนำไปสู่การถอนตัวของพรรคร่วมรัฐบาล
คณะผู้เชี่ยวชาญอิสระ (Independent Expert) ของโอลาฟ โชลซ์ (Olaf Scholz) รัฐมนตรีคลังได้หั่นลดคาดการณ์ทางเศรษฐกิจลงเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยมองว่าเศรษฐกิจเยอรมนีจะหดตัวลงในปีนี้และเติบโตเพียงแค่ 0.4% ในปี 2025
อาการป่วยไข้ในภาคการผลิตยังคงเป็นปัญหาสำคัญและกลับมาปรากฏบนหน้าสื่ออีกครั้ง เมื่อสหภาพแรงงานของโฟล์คสวาเกน (Volkswagen) นัดหยุดงานประท้วงตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมเพื่อต่อต้านแผนการปิดโรงงานและการเลิกจ้าง นอกจากนี้ ฟอร์ด มอเตอร์ (Ford Motor) ยังได้มีการประกาศเลิกจ้างในเยอรมนีเช่นกัน
เยอรมนีกำลังจะมีการเลือกตั้งกะทันหัน (Snap Election) ในปี 2025 หลังจากที่พรรคเสรีประชาธิปไตยถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งโอลาฟ โชลซ์มีแนวโน้มว่าจะเป็นผู้นำพรรคสังคมประชาธิปไตยเยอรมนี (SPD) ลุยหาเสียง หลังจากที่บอริส พิสทอริอุส (Boris Pistorius) รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมปฏิเสธที่จะรับหน้าที่ดังกล่าว