คณะกรรมาธิการด้านจีนแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ระบุในหนังสือที่ยื่นถึงเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ มีใจความระบุว่า ฮ่องกงได้เปลี่ยนจากศูนย์กลางทางการเงินโลกที่ไว้วางใจได้ ไปเป็นศูนย์กลางอาชญากรรมทางการเงิน
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2024 บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ (สส.) ในคณะกรรมาธิการด้านจีนระบุว่า ฮ่องกงกลายเป็นศูนย์กลางอาชญากรรมทางการเงิน เนื่องจากถูกจีนปกครองอย่างเข้มงวดมากขึ้น ความเคลื่อนไหวที่เน้นย้ำความสัมพันธ์ที่เลวร้ายลงระหว่างฮ่องกงและสหรัฐ
ประธานคณะกรรมาธิการด้านจีนแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ (House China Select Committee) ยื่นหนังสือถึงเจเน็ต เยลเลน (Janet Yellen) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ ความว่า นับตั้งแต่รัฐบาลจีนใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกงเมื่อกรกฎาคม 2020 ฮ่องกงเปลี่ยนจากศูนย์กลางการเงินโลกที่วางใจได้ ไปเป็นผู้เล่นสำคัญในแกนเผด็จการของจีน อิหร่าน รัสเซียและเกาหลีเหนือ
หนังสือที่ลงนามโดยนายจอห์น มูเลนาร์ (John Moolenaar) ประธานคณะกรรมาธิการ ซึ่งเป็น สส.มิชิแกนจากพรรครีพับลิกัน และนายราจา กฤษณะมูรตี (Raja Krishnamoorthi) สส.อิลลินอยส์ จากเดโมแครต กล่าวเสริมว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้เกิดคำถามหลายประการว่า นโยบายของสหรัฐต่อฮ่องกงที่มีมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะภาคการเงินและการธนาคารนั้นเดินมาถูกทางแล้วหรือไม่
ความสัมพันธ์ระหว่างฮ่องกงและสหรัฐเสื่อมถอยลงจากกรณีการปราบปรามผู้เห็นต่างทางการเมือง ที่เจ้าหน้าที่สหรัฐระบุว่าได้กัดกร่อนหลักนิติธรรมและสิทธิตามประชาธิปไตย
ในหนังสือ นายมูเลนาร์และกฤษณะมูรตีกล่าวว่า ฮ่องกงกลายเป็นผู้นำโลกในการกระทำที่ผิดกฎหมาย 4 ข้อ ได้แก่
1.การให้รัสเซียเข้าถึงเทคโนโลยีตะวันตกที่ต้องห้าม
2.การตั้งบริษัทบังหน้าสำหรับการซื้อน้ำมันอิหร่านที่ถูกคว่ำบาตร
3.การช่วยการค้าทองคำจากรัสเซีย
4.การแล่นเรือที่ทำการค้าผิดกฎหมายกับเกาหลีเหนือ
หนังสือฉบับนี้ยังอ้างถึงงานวิจัยที่ระบุว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของสินค้าถูกส่งจากฮ่องกงไปยังรัสเซียในปี 2023 นั้น เป็นรายการสินค้าที่มีความสำคัญอย่างสูง ซึ่งทั้งสหรัฐและสหภาพยุโรป (อียู) เน้นเพื่อการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตร ซึ่งรวมถึงสินค้าเซมิคอนดักเตอร์หรือชิป และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่รัสเซียต้องการมากที่สุดในการทำสงครามกับยูเครน