
ผลสำรวจของนิกเคอิพบว่า พื้นที่เขตต่าง ๆ ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ยังไม่มีการเตรียมความพร้อมเพียงพอที่จะช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่างชาติในกรณีเกิดภัยพิบัติ จำเป็นต้องจัดทำแผนเร่งด่วนเพื่อป้องกันความวุ่นวายและอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
นิกเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) รายงานในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2024 ว่า ผลสำรวจของนิกเคอิแสดงให้เห็นว่า เขตต่าง ๆ ส่วนใหญ่ในกรุงโตเกียว เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ไม่มีมาตรการการเตรียมพร้อมในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินสำหรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศโดยตรง ซึ่งผลสำรวจนี้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องมีการจัดทำแผนดังกล่าว เพื่อป้องกันความวุ่นวายหากเกิดภัยพิบัติ
การสำรวจนี้เกิดขึ้นในช่วงที่นักท่องเที่ยวต่างชาติกำลังหลั่งไหลเข้าไปเที่ยวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวมากที่สุดในโลก และนักท่องเที่ยวต่างชาติก็นิยมไปเที่ยวในกรุงโตเกียว
ทั้งนี้ รัฐบาลท้องถิ่นและเทศบาลในญี่ปุ่นมีแผนการจัดการภัยพิบัติตามกฎหมาย โดยระบุขั้นตอนต่าง ๆ ในการรับมือกับภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นเอาไว้ แต่จากการสำรวจพบว่า 16 เขตจากทั้งหมด 23 เขตในกรุงโตเกียว กล่าวว่า แผนการรับมือภัยพิบัติของพวกเขายังไม่มีมาตรการที่มุ่งเน้นไปที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นพิเศษ แม้ในบางเขตมีแผนรับมือภัยพิบัติสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่บางเขตที่มีแผนก็ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวได้ เช่น วิธีการกลับที่พัก เป็นต้น
การเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่นในเดือนมีนาคม ปี 2011 นั้นทำให้เครือข่ายการขนส่ง (transportation network) ตั้งแต่ถนนไปจนถึงรถไฟในเขตอภิมหานครโตเกียว (Greater Tokyo) ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ ส่งผลให้ผู้คนหลายล้านคนติดอยู่ในสถานีรถไฟและบนท้องถนน
รัฐบาลกรุงโตเกียว (Tokyo Metropolitan Government) คาดการณ์ไว้ว่า หากเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่มาก (megaquake) ในกรุงโตเกียว จะมีผู้คนมากกว่า 4.52 ล้านคนได้รับผลกระทบในการเดินทางกลับบ้าน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่บอกว่า เพื่อหลีกเลี่ยงการเบียดเสียดของฝูงชนจนเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต กฎพื้นฐานที่ต้องทำในสถานการณ์ดังกล่าวก็คือ ต้องไม่เดินหรือขยับเขยื้อนร่างกายโดยไม่จำเป็น
ชเว ซุนกยอง (Choi Sunkyung) นักวิจัยที่สถาบันวิทยาศาสตร์โตเกียว (Institute of Science Tokyo) กล่าวว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติบางคนอาจไม่มีความคุ้นชินกับเหตุแผ่นดินไหวและไม่มีความเข้าใจในภาษาญี่ปุ่น ดังนั้น จึงอาจเกิดความตื่นตระหนกได้หากเกิดเหตุภัยพิบัติขึ้น ทั้งยังกล่าวด้วยว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างประเทศจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือเป็นพิเศษ ซึ่งแตกต่างจากชาวต่างชาติที่เดิมอาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นอยู่แล้ว
ทั้งนี้ การเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการอพยพถือเป็นเรื่องที่ท้าทาย อย่างข้อมูลที่ว่าโรงเรียนที่อยู่บริเวณใกล้ ๆ นั้นเป็นที่หลบภัยฉุกเฉิน อาจเป็นที่รู้กันแพร่หลายสำหรับคนที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นอยู่แล้ว แต่ในทางกลับกัน นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเขาจะอพยพไปที่ใดหากเกิดเหตุภัยพิบัติขึ้น
จากการสำรวจพบว่า ทั้ง 23 เขตในโตเกียวกล่าวว่า ในเว็บไซต์ของเขตมีการนำเสนอข้อมูลในหลากหลายภาษา แต่มีเพียง 6 เขตที่มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว (Tourism Center) ที่สามารถให้บริการภาษาต่าง ๆ ได้ และมีเพียง 2 เขตที่มีบริการตอบรับทางโทรศัพท์หรือคอลเซ็นเตอร์ในหลากหลายภาษา
เมื่อเดือนสิงหาคม 2024 รัฐบาลญี่ปุ่นออกประกาศเตือนว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ซึ่งอาจยังคงมีผลกระทบต่อไปเป็นเวลา 1 สัปดาห์ แต่กลับไม่มีการแจ้งเตือนไปยัง “เซฟตี้ ทิปส์” (Safety Tips) ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นแจ้งเตือนภัยพิบัติในประเทศญี่ปุ่นที่มีคำเตือนหลากหลายภาษาที่จัดทำโดยสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (Japan Tourism Agency : JTA)
นอกจากนี้ ชเว ซุนกยอง กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เป็นหน้าที่ของรัฐบาลท้องถิ่นที่จะนำเสนอรายละเอียดและข้อมูลทันทีหลังเกิดภัยพิบัติ เนื่องจากรัฐบาลกลางอาจต้องใช้เวลามากในการส่งต่อข้อมูลอย่างเป็นทางการ
ถึงอย่างนั้นก็ตาม การดำเนินการโดยเขตต่าง ๆ ก็มีความท้าทายตรงที่เขตมีทรัพยากรจำกัด ตัวอย่างเช่น เขตอะระกะวะ (Arakawa) ตอบในแบบสำรวจว่า เขตสามารถให้ความร่วมมือกับผู้ปฏิบัติการสถานีรถไฟและตำรวจได้ เพื่อที่จะชี้ให้ผู้คนไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวได้ แต่ไม่สามารถทำได้ในหลากหลายภาษา
ขณะที่เขตชูโอ (Chuo) ซึ่งเป็นที่ตั้งของจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว อย่างย่านช็อปปิ้งกินซ่า (Ginza) และตรอกซอกซอยซึกิจิ (Tsukiji) ที่มีร้านซูชิและร้านอาหารมากมาย กล่าวว่า เพื่อที่จะให้คำแนะนำในการอพยพเป็นไปอย่างราบรื่น จำเป็นต้องมีความพยายามร่วมกันของชุมชนจากทั้งผู้ปฎิบัติการสถานีรถไฟและภาคบริษัทเอกชน
อย่างไรก็ตาม บางเขตกำลังยกระดับโปรแกรมเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติ อย่างเขตไทโต (Taito) ที่ร่วมกับสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวอาซากุสะจัดการฝึกซ้อมประจำปีเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ติดค้าง รวมไปถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยได้รับการสนับสนุนจากนักเรียนต่างชาติในโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น อีกทั้งเขตชิบุยา (Shibuya) ได้ติดตั้งป้ายสัญลักษณ์ชี้บอกทางไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวด้วย
โตเกียวได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 5.57 ล้านคน ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงมีนาคม 2024 ซึ่งเพิ่มขึ้น 34% จากไตรมาสเดียวกันของปี 2023 (YOY) และเมื่อนับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติตลอดปี 2024 นี้ ซึ่งยังไม่จบปี จำนวนนักท่องเที่ยวพุ่งทำลายสถิติที่ 19.53 ล้านคนแล้ว ทั้งนี้ โตเกียวตั้งเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2030 ไว้ที่ 30 ล้านคน