BOK ลดดอกเบี้ยสองเดือนติด รับมือล่วงหน้าก่อนภาษีทรัมป์มาจริง

ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ภาพโดย Jung Yeon-je / AFP
ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ภาพโดย Jung Yeon-je / AFP

ธนาคารกลางเกาหลีใต้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน นักวิเคราะห์มองเป็นการปรับตัวรับมือล่วงหน้าก่อนกำแพงภาษีทรัมป์มาจริง

บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า ธนาคารกลางเกาหลีใต้สร้างความประหลาดใจให้แก่นักลงทุนด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2024 นับเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน ทั้งยังปรับลดคาดการณ์การเติบโตในปี 2025 ลงต่ำกว่าเดิม  

ธนาคารกลางเกาหลีใต้ลดอัตราดอกเบี้ยธุรกรรมซื้อคืนพันธบัตรระยะเวลา 7 วัน (7-Day Repurchase Rate) ลงอย่างเร่งด่วน จาก 3.25% เหลือ 3% เพื่อตอบสนองต่อความกังวลทางการค้าและเศรษฐกิจที่กำลังเพิ่มขึ้นจากการคว้าชัยชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์

ธนาคารกลางเกาหลีใต้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตสำหรับปี 2025 ลงจนต่ำกว่า 2% โดยขณะนี้ธนาคารกลางเกาหลีมองว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีต่อไปจะอยู่ที่ 1.9% ซึ่งลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ 2.1% ในเดือนสิงหาคม ซึ่งคาดการณ์การเติบโตที่ลดลงนี้อาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ธนาคารกลางตัดสินใจลดดอกเบี้ยอย่างคาดไม่ถึงเช่นนี้

โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล หรือบอนด์ยีลด์เกาหลีใต้ร่วงลง ส่วนหุ้นขยับขึ้น และเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ 

ลี ซ็อง-ซ็อก (Lee Seung-suk) นักวิจัยที่โคเรีย อีโคโนมิก รีเสิร์ช อินสติติวต์ (Korea Economic Research Institute) กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวควรถูกมองว่า เป็นการตอบสนองล่วงหน้าต่อการลงทุนและการค้าที่จะตกต่ำลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากทรัมป์พุ่งเป้าไปยังคู่ค้าที่เกินดุล นับตั้งแต่จีนเรื่อยมาจนถึงเกาหลีใต้ ธนาคารกลางเกาหลีใต้ตระหนักถึงภาระหนี้ครัวเรือนและภาคเอกชนที่จะเพิ่มขึ้น ดังนั้น การลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางจึงไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายแต่อย่างใด เพียงแต่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องลดดอกเบี้ยล่วงหน้าเช่นนี้

ADVERTISMENT

บลูมเบิร์กจัดทำแบบสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ 22 คน พบว่ามีนักเศรษฐศาสตร์เพียง 4 คนเท่านั้นที่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะลดอัตราดอกเบี้ย ส่วนนักเศรษฐศาสตร์อีก 18 คนที่เหลือคาดว่าธนาคารกลางจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เช่นเดิม และประเมินผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในเดือนตุลาคม เมื่อธนาคารกลางปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบมากกว่าสี่ปี

ตลาดบ้านที่ชะลอตัวลง แรงกดดันเงินเฟ้อที่ผ่อนคลายลง และการส่งออกที่เติบโตชะลอตัวลง เป็นปัจจัยเบื้องต้นที่ทำให้ธนาคารกลางตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยลงในครั้งนี้ นอกจากนี้ ชัยชนะของทรัมป์ยังทำให้ผู้กำหนดนโยบายมองหาวิธีที่จะค้ำจุนเศรษฐกิจเกาหลีใต้ ที่พึ่งพาการค้าอย่างมาก และจะต้องเผชิญกับอัตราภาษีศุลกากรที่จะสูงขึ้นหลังทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง

ADVERTISMENT

พัค จอง อู (Jeong Woo Park) นักเศรษฐศาสตร์จากโนมูระ โฮลดิงส์ (Nomura Holdings) กล่าวไว้ก่อนที่ธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงว่า นับตั้งแต่รู้ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ก็รู้ได้เลยว่าการส่งออกกำลังจะมีอุปสรรคครั้งใหม่ ดังนั้น ผู้กำหนดนโยบายจึงควรจะเปลี่ยนจุดมุ่งเน้นไปยังแนวโน้มทางเศรษฐกิจที่จะแย่ลง และการคลายความกังวลต่อเสถียรภาพทางการเงินแทน

การตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ขัดกับจุดยืนของธนาคารกลางเกาหลี ที่จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยติดต่อกัน 2 ครั้ง เว้นแต่จะมีวิกฤตเศรษฐกิจเกิดขึ้น การลดอัตราดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นจึงเน้นย้ำถึงความเร่งด่วน และแสดงให้เห็นว่าธนาคารกลางเกาหลีมีวิธีการรับมือที่คล่องแคล่วมากขึ้น หากมีความผันผวนแผ่ขยายไปทั่วเศรษฐกิจโลก

ทรัมป์ให้สัญญาระหว่างรณรงค์หาเสียงว่าจะขึ้นกำแพงกาษีและจะเสนอชุดมาตรการจูงใจให้บริษัทต่างชาติ เช่น ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ โค. (Samsung Electronics Co.) และฮุนได มอเตอร์ โค. (Hyundai Motor Co.) ย้ายมาลงทุนในผืนดินสหรัฐ 

อัน เย-ฮา (Ahn Yea-ha) นักวิเคราะห์ที่กีอุม ซีเคียวริตีส์ โค. (Kiwoom Securities Co.) กล่าวว่า ความไม่แน่นอนในภาคการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์กำลังเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการขึ้นกำแพงภาษีสินค้าจีนของทรัมป์อาจทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ

ความกังวลเพิ่มสูงขึ้นในหมู่สาธารณชนเกาหลีเช่นกัน ตามการสำรวจของธนาคารกลางเกาหลีในเดือนพฤศจิกายนพบว่า ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2022