
อัตราเงินเฟ้อในเดือนพฤศจิกายนของกรุงโตเกียวเร่งตัวเกินคาด ขณะที่ข้อมูลอื่น ๆ แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจกำลังเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกับที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นคาดการณ์ไว้ ซ้ำเติมความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ซึ่งจะทำให้เงินเยนแข็งค่าขึ้น
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2024 บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า ตามข้อมูลจากกระทรวงกิจการภายในญี่ปุ่น เดือนพฤศจิกายน ดัชนีราคาผู้บริโภคที่ไม่นับรวมอาหารสดของกรุงโตเดียวไต่ระดับเพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YOY) เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 1.8% ส่วนใหญ่เป็นผลของการอุดหนุนภาคพลังงาน อัตราเงินเฟ้อโดยรวมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 2.6% จากราคาอาหารที่สูงขึ้น ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักเศรษฐศาสต์คาดการณ์ไว้
หลังการรายงานของกระทรวงกิจการภายใน สกุลเงินเยนแข็งค่าขึ้นสูงสุดเป็น 149.94 เยนต่อดอลลาร์ จาก 151.34 เยนต่อดอลลาร์ เนื่องจากตัวเลขดัชนีมีแนวโน้มส่งเสริมการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่นในเดือนธันวาคม สวอป (Swap) หรือค่าผลต่างของอัตราดอกเบี้ยค้างคืนชี้ให้เห็นว่ามีโอกาส 63% ที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป
ตลาดในเดือนพฤศจิกายนคาดว่าจะมีการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นเป็นสองเท่า เนื่องจากคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นคอยย้ำอยู่เสมอว่าจะเพิ่มอัตราดอกเบี้ย หากเศรษฐกิจยังคงดำเนินต่อไปตามทรรศนะของธนาคารกลาง
รายงานแยกอีกฉบับหนึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานยังคงตึงตัว โดยอัตราการจ้างงานต่อผู้สมัครงานเพิ่มขึ้นเป็น 1.25 ในเดือนตุลาคม และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 2.5%
ทาโร ไซโต้ หัวหน้านักวิจัยเศรษฐกิจที่ เอ็นแอลไอ รีเสิร์ช อินสติติว (NLI Research Institute) กล่าวว่า โดยรวม ไม่มีข้อมูลทางเศรษฐกิจใดที่จะหยุดยั้งการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง หากตลาดการเงินยังสงบ ธนาคารกลางก็จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมได้
โดยข้อมูลที่รัฐบาลรายงานในครั้งนี้ จะเป็นรายงานฉบับสุดท้ายก่อนที่ธนาคารกลางจะต้องตัดสินใจปรับนโยบายดอกเบี้ยอ้างอิงในวันที่ 19 ธันวาคม ซึ่งในสัปดาห์ก่อน อุเอดะกล่าวว่าไม่สามารถคาดการณ์ผลลัพธ์ของการประชุมได้ บ่งบอกเป็นนัยว่าการประชุมครั้งต่อไปจะเป็นการอภิปรายสด
ฟูมิโอะ คิชิดะ (Fumio Kishida) นายกรัฐมนตรีคนก่อนได้ยกเลิกการอุดหนุนราคาพลังงานลงไป แต่ชิเงรุ อิชิบะ นายกคนต่อมาตัดสินใจใช้มาตรการดังกล่าวอีกครั้งในเดือนมกราคม ซึ่งผลกระทบจากเงินอุดหนุนสะท้อนได้จากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ ยังมีสัญญาณบางอย่างแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงแข็งแรงแม้ไม่มีผลกระทบจากเงินอุดหนุนราคาพลังงาน ตามรายงานของเทโกกุ ดาต้าแบงก์ (Teikoku Databank) บริษัทอาหารวางแผนเพิ่มราคาผลิตภัณฑ์กว่า 3,933 รายการในปี 2025 มากกว่าแผนขั้นต้นของปีนี้ถึง 2.5 เท่า
มีการคาดการณ์กันว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็ว ๆ นี้ ในแบบสำรวจจัดทำโดยบลูมเบิร์ก พบว่า นักเศรษฐศาสตร์กว่า 80% คาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในเดือนมกราคม นอกจากนี้ ตามรายงานของกระทรวงกิจการภายในยังแสดงตัวเลขจีดีพีให้เห็นว่า ขณะนี้ เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีการฟื้นตัวปานกลาง
ตัวเลขอื่น ๆ เช่น การผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 3% ในเดือนตุลาคมเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (MOM) ขณะที่ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.1% อย่างไรก็ตาม ภาคการบริโภคยังเป็นปัจจัยสำคัญต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น ขณะที่ภาคการผลิตอาจต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคการขึ้นกำแพงภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์
ผลผลิตโรงงานคาดว่าจะลดลง 2.2% ในเดือนพฤศจิกายน และ 0.5% ในเดือนธันวาคม ซึ่งในไตรมาสสาม การผลิตลดลง 0.4% จากไตรมาสก่อนหน้า (QOQ)
ชิเงรุ อิชิบะได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อช่วยเหลือภาคการบริโภคจากผลกระทบของเงินเฟ้อ ด้วยงบประมาณพิเศษที่คาดว่าจะผ่านมติรัฐสภาในบ่ายวันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายนนี้
โดยมาตรการดังกล่าวประกอบด้วยการแจกเงินสดแก่ครัวเรือนรายได้ต่ำ การอุดหนุนราคาพลังงานอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และปัญญาประดิษฐ์
ไซโต้ จากเอ็นแอลไอยังกล่าวอีกว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มค่อย ๆ ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลกยังคงสูงอยู่