ชาวอเมริกันกว่า 197 ล้านคน ออกมาใช้จ่ายช่วงเทศกาลหยุดยาววันขอบคุณพระเจ้า ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ยังต่ำกว่าตัวเลขในปีก่อนหน้า โดยพบว่าผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์เพิ่มขึ้นสูงถึง 14.6% YOY
รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า สหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติสหรัฐ (National Retail Federation) เผยว่า ในช่วงเวลา 5 วันระหว่างวันขอบคุณพระเจ้า (ทุกวันพฤหัสบดีที่สี่ของเดือนพฤศจิกายน) จนถึงวันจันทร์ที่เรียกว่าไซเบอร์ มันเดย์ (Cyber Monday) มีชาวอเมริกันซื้อสินค้าทั้งหน้าร้านและออนไลน์ประมาณ 197 ล้านคน มากกว่าจำนวน 183.4 ล้านคนที่ประมาณการไว้ แต่ต่ำกว่า 200.4 ล้านคนในปีก่อน
รายงานระบุว่า ระหว่างช่วงวันหยุดยาว ผู้บริโภคใช้จ่ายเงินโดยเฉลี่ย 235 ดอลลาร์ต่อคน (ราว 8,000 บาท) มากกว่าปี 2023 ถึง 8 ดอลลาร์ (ราว 275 บาท) ส่วนใหญ่ใช้จ่ายไปกับเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ ตามด้วยของเล่น และผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย
เนื่องจากมีเวลาเพียง 26 วันก่อนจะถึงวันคริสต์มาส สมาพันธ์ค้าปลีกฯ จึงคาดว่ายอดขายจะเติบโตชะลอตัวลง แต่ข้อมูลข้างต้นกลับแสดงให้เห็นว่าผู้ค้าปลีกประสบความสำเร็จในการรับมือกับช่วงเวลาการซื้อที่สั้นลงในปีนี้ และสามารถดึงดูดลูกค้าด้วยข้อเสนอสุดคุ้ม
แมตทิว เชย์ (Matthew Shay) ประธานและซีอีโอของสมาพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติสหรัฐ กล่าวว่า แม้จะมีช่วงเวลาการซื้อขายที่สั้นลง และผู้ค้าปลีกมากมายที่แข่งกันลดราคา แต่จำนวนผู้ซื้อในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมากลับเหนือความคาดหมาย
แบล็กฟรายเดย์ (Black Friday) เป็นวันที่มีการซื้อสินค้ามากที่สุดในช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า ผู้บริโภคราว 81.7 ล้านคนเลือกซื้อสินค้าหน้าร้าน และอีก 87.3 ล้านคนซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์
ตามรายงานของมาสเตอร์การ์ด สเปนดิ้งพัลส์ (Mastercard SpendingPulse) เผยว่า ยอดขายผ่านทางอีคอมเมิร์ซ (e-Commerce) ในสหรัฐช่วงแบล็กฟรายเดย์พุ่งทะยานสูงถึง 14.6% ขณะที่การซื้อขายหน้าร้านเพิ่มแค่ 0.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี (YOY)
ผู้บริโภคหันมาเลือกซื้อสินค้าผ่านโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์พกพากันมากขึ้น แทนการมุ่งไปเลือกซื้อสินค้าหน้าร้าน กระตุ้นให้ผู้ค้าปลีกงัดโปรโมชั่นและข้อเสนอมากมายมาใช้บนเว็บไซต์และแอปต่าง ๆ
วอลมาร์ต (Walmart) ยักษ์ใหญ่วงการค้าปลีก ออกส่วนลดตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายนช่วงก่อนถึงแบล็กฟรายเดย์ ส่วนทาร์เก็ต (Target) ลดราคาเครื่องใช้ไฟฟ้ากว่า 100 ดอลลาร์ (ราว 3,400 บาท) และลดราคาของเล่นกว่า 50%