สำรวจพบ นักธุรกิจสหรัฐมั่นใจเพิ่มขึ้น หลังรู้ผลทรัมป์ชนะเลือกตั้ง

ภาพของโดนัลด์ ทรัมป์ บริเวณเมดิสัน สแควร์ การ์เดน ภาพโดย REUTERS/David Dee Delgado
ภาพของโดนัลด์ ทรัมป์ ติดอยู่บริเวณเมดิสัน สแควร์ การ์เดน ภาพโดย REUTERS/David Dee Delgado

ผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจ พบว่าบรรดาผู้บริหารในสหรัฐมีความมั่นใจเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในปี 2025 เพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังรู้ผลทรัมป์คว้าชัยชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

วันที่ 5 ธันวาคม 2024 บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า ผลสำรวจทั้งสองแห่งพบว่าบรรดาผู้บริหารในสหรัฐมีความเชื่อมั่นทางธุรกิจมากขึ้นหลังทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง มองปี 2025 เติบโตแข็งแกร่ง แม้มีความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ เหตุทรัมป์จะลดการเรียกเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลและผ่อนคลายการกำกับดูแล ผู้บริหารจึงวางแผนใช้จ่ายเงินลงทุนมากขึ้น และพร้อมจ้างงานเพิ่ม

ผู้บริหาร 67% จากทั้งหมด 273 คนที่ตอบแบบสอบถามของสมาคมนักบัญชีรับอนุญาตสากล (Association of International Certified Professional Accountants) หรือ AICPA ระหว่างวันที่ 6 ถึง 26 พฤศจิกายน บอกว่ามีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในปี 2025 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากจำนวน 26% ในเดือนสิงหาคม และ 43% เมื่อเทียบเป็นรายปี (YOY)  

ทรัมป์ให้คำสัญญาระหว่างรณรงค์หาเสียง ว่าจะลดการเรียกเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล และผ่อนคลายการกำกับดูแล ทั้งยังขู่เพิ่มภาษีกับประเทศคู่ค้าอีกด้วย ซึ่งเป็นนโยบายที่เสี่ยงต่อการเพิ่มภาวะเงินเฟ้ออย่างมาก กระนั้น ด้วยท่าทีที่เป็นมิตรต่อภาคธุรกิจ จึงทำให้ผู้บริหารยกระดับความคาดหวังด้านรายได้และผลกำไรสูงขึ้น หลังทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง

บรรดาผู้บริหารหลายคนกล่าวว่า พวกเขาวางแผนใช้จ่ายเงินลงทุนขยายธุรกิจมากขึ้น และยังเอ่ยถึงแนวโน้มการจ้างงานที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเลือกตั้ง

AICPA มีผลสำรวจสอดคล้องกับโรงเรียนธุรกิจฟูควา (Fuqua School of Business) ของมหาวิทยาลัยดุ๊ก (Duke University) ที่ร่วมมือกับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตาและริชมอนด์ ที่สำรวจผู้บริหารในภาคการเงินกว่า 500 คน พบความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโดยรวมสูงขึ้น ตลอดจนผลประกอบการบริษัท

ADVERTISMENT

โดยเฉพาะผู้บริหารในภาคการผลิตและบริษัทก่อสร้างที่มีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ

จอห์น เกรแฮม (John Graham) ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยดุ๊กและเป็นผู้ควบคุมการจัดทำแบบสำรวจกล่าวว่า ความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงความคลี่คลายหลังรู้ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี รวมถึงความคาดหวังว่านโยบายการกำกับดูแลที่จะเอื้อต่อภาคธุรกิจมากขึ้น ซึ่งเคยเกิดขึ้นหลังทรัมป์ชนะเลือกตั้งสมัยแรกเช่นกัน

ADVERTISMENT

สิ่งที่ผู้ตอบแบบสำรวจเป็นกังวลนอกเหนือจากเรื่องเงินเฟ้อ ได้แก่ นโยบายการเงิน ผลกระทบจากการขึ้นกำแพงภาษี และความเพียงพอ (Availability) ของแรงงาน ในแบบสำรวจของดุ๊ก ส่วนผู้ตอบแบบสำรวจ AICPA กังวลเรื่องต้นทุนค่าวัตถุดิบและพลังงาน 

เนื่องจากดุ๊กสำรวจเฉพาะผู้บริหารในภาคการเงิน แต่ AICPA สำรวจผู้บริหารในหลายหมวดหมู่มากกว่า คำตอบเกี่ยวกับข้อกังวลของทั้งสองแบบสอบถามจึงมีความแตกต่างกัน