ประธานาธิบดีเกาหลีใต้อาจรอด ผู้นำฝ่ายค้านยอมรับเสียงไม่พอถอดถอน

ประชาชนเกาหลีใต้ชุมนุมในกรุงโซลเพื่อเรียกร้องให้ ยุน ซอกยอล ลาออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2024
ประชาชนเกาหลีใต้ชุมนุมในกรุงโซลเพื่อจุดเทียนเรียกร้องให้ ยุน ซอกยอล ลาออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2024 (Photo by Philip FONG / AFP)

ยุน ซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ผู้ประกาศกฎอัยการศึกครั้งแรกในรอบ 40 กว่าปี อาจรอด ผู้นำฝ่ายค้านยอมรับ การลงมติในวันเสาร์นี้ ยากที่จะได้เสียงสนับสนุนเพียงพอที่จะถอดถอนยุนออกจากตำแหน่ง 

ลี แจ-มยอง (Lee Jae-myung) หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยแห่งเกาหลี (Democratic Party of Korea: DPK) ซึ่งเป็นผู้นำฝ่ายค้านของเกาหลีใต้ให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์ก (Bloomberg) ในวันที่ 5 ธันวาคม 2024 ถึงเรื่องการลงมติถอดถอน ยุน ซอกยอล (Yoon Suk-Yeol) ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี ในวันเสาร์ที่ 7 สิงหาคมนี้ จากสาเหตุที่ยุนประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา 

บลูมเบิร์กรายงานว่า ลียอมรับว่าอาจเป็นเรื่องยากที่จะได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภาจากพรรครัฐบาลเพียงพอที่จะถอดถอนยุนออกจากตำแหน่งได้ 

ลีกล่าวว่าสถานการณ์ยังคงอยู่ใน “ภาวะผันผวน” ก่อนที่รัฐสภาจะลงมติในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ถึงอย่างนั้นก็ตาม เขาก็กล่าวด้วยว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในการลงมติครั้งนี้ ตัวเขาเองจะยังคงมุ่งมั่นที่จะถอดถอนประธานาธิบดียุนออกจากตำแหน่ง 

ทั้งนี้ แม้ว่าพรรค DPK ของลีจะครองเสียงข้างมากในสภานิติบัญญัติ แต่จำเป็นต้องได้เสียงสนับสนุนอย่างน้อย 8 เสียงจากพรรคพลังประชาชน (People Power Party: PPP) ของยุน เพื่อที่จะเดินหน้าถอดถอนประธานาธิบดีได้ 

“ปัญหาคือ แม้ว่าสมาชิกรัฐสภาจากพรรครัฐบาลหลายคนจะมีความตั้งใจ แต่นั่นหมายถึงพวกเขาต้องลงมติตรงข้ามกับแนวทางของพรรค ซึ่งจะทำให้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก” ผู้นำฝ่ายค้านเกาหลีใต้กล่าว 

ADVERTISMENT

นอกจากนั้น ลี แจ-มยองกล่าวอีกว่า พรรคของเขาจะยังคงพยายามขับไล่ยุนออกจากตำแหน่งต่อไป แม้ว่ายุนจะรอดจากการลงมติถอดถอนในเบื้องต้นก็ตาม 

“เขาจะต้องถูกถอดถอน คำถามมีเพียงว่า เขาจะถูกปลดออกจากตำแหน่งในมะรืน ในสัปดาห์ถัดไป หรือในหนึ่งเดือน หรือสามเดือนถัดไป” ลี แจ-มยองกล่าว 

ADVERTISMENT

ด้าน ฮัน ดงฮุน (Han Dong-hoon) หัวหน้าพรรค PPP ซึ่งยุนสังกัดอยู่กล่าวในวันที่ 5 ธันวาคมเช่นกันว่า เขาจะไม่เห็นชอบการผ่านญัตติถอดถอนประธานาธิบดี แต่เขาได้ขอให้ยุนลาออกจากพรรค ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่จะทำให้ประธานาธิบดียุนรู้สึกโดดเดี่ยวมากขึ้น แม้ว่าเขาจะยังคงอยู่ในตำแหน่งประธานาธิบดีก็ตาม