ไทม์ไลน์ ‘ยุน ซอกยอล’ จนตรอกใช้อัยการศึก เสียใจแต่ไม่ลาออก รอดด้วยเกมสภา

ภาพ รอยเตอร์
ข้อมูลเผยแพร่ครั้งแรก 7 ธ.ค. เวลา 13.15 น. อัพเดตล่าสุด 8 ธ.ค. เวลา 23.34 น.

ย้อนไทม์ไลน์การประกาศกฎอัยการศึกของยุน ซอกยอล (Yoon Suk Yeol) ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่มีอายุแสนสั้นเพียงราว 6 ชั่วโมงก่อนออกมาขอโทษประชาชนที่ทำให้ตกอกตกใจ แต่ตนเองยืนยันไม่ลาออกเอง พร้อมระบุปล่อยให้เป็นการตัดสินใจของพรรคในการโหวตญัตติยื่นถอดถอนจากตำแหน่ง

3 ธ.ค. 2024

22.25 น. ยุน ซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้แถลงฉุกเฉินผ่านการถ่ายทอดสดรวมถึงสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจประกาศกฎอัยการศึก ความยาว 6 นาที อ้างเพื่อปกป้องประเทศให้รอดพ้นภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือและกล่าวหาฝ่ายค้านกระทำการต่อต้านรัฐ โดยพยายามล้มล้างรัฐบาลด้วยการเห็นอกเห็นใจเกาหลีเหนือ โดยมีคิม ยองฮยุน รมว. กลาโหมเป็นผู้อยู่เบื้องหลังคนสำคัญในการประกาศใช้อัยการศึก

นับเป็นการประกาศกฎอัยการศึกครั้งแรกในรอบ 44 ปี นับตั้งแต่ปี 1980 หลังจากการโค่นเผด็จการทหารชุน ดูฮวาน

ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมา พลเอกปาร์ก อัน-ซู เสนาธิการกองทัพบก ซึ่งยุนแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการกฎอัยการศึก ประกาศว่ากฤษฎีกากฎอัยการศึกฉบับที่ 1 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 23.00 น.

ในกฎอัยการศึกสั่งห้ามกิจกรรมทางการเมืองทั้งหมดรวมถึงการประชุมสภา ห้ามการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย มีอำนาจในการเซนเซอร์สื่อ ตลอดจนอนุญาตให้จับกุมโดยไม่ต้องมีหมายจับ

ADVERTISMENT

นอกจากนี้ยังมีถ้อยคำที่รุนแรง เช่น สัญญาว่าจะ “ลงโทษและกำจัดผู้ฝ่าฝืน” ถ้อยคำดังกล่าวนี้ทำให้นึกถึงคำสั่งเผด็จการครั้งสุดท้ายที่ใช้ในเกาหลีใต้เมื่อกว่า 40 ปีที่แล้ว

เจ้าหน้าที่เข้าตรึงกำลังแน่นในหลายสถานที่ราชการ โดยเฉพาะอาคารัฐสภา โซเชียลมีเดียแชร์ภาพเฮลิคอปเตอร์บินอยู่เหนือท้องฟ้ากรุงโซล

ADVERTISMENT

การประกาศกฎอัยการศึกครั้งนี้มีประเด็นดราม่าของสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง นั่นคือคิม คอนฮี (Kim Keon Hee) โดยเฉพาะข่าวฉาวการรับสินบนเป็นกระเป๋าดิออร์ไปจนถึงการปั่นหุ้น รวมถึงการตัดลดงบประมาณของฝ่ายค้าน

รัฐบาลไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายสำคัญได้ หลังจากฝ่ายค้านชนะถล่มทลายในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตามปรากฏในแถลงการณ์กฎอัยการศึก

ประธานาธิบดียุนระบุว่า ฝ่ายนิติบัญญัติทำให้ฝ่ายบริหารเป็นอัมพาต จากกรณีฝ่ายค้านยื่นถอดถอนรัฐมนตรี ใช้กระบวนการผ่านร่างงบประมาณเป็นอาวุธ ลดงบประมาณที่จำเป็นของรัฐในด้านความมั่นคงและรวมถึงลดเงินสำรองรับมือภัยพิบัติ 1 ล้านล้านวอน (ราว 23,000 ล้านบาท ) เงินอุดหนุนค่าเลี้ยงดูบุตร 38,400 ล้านวอน (ราว 918 ล้านบาท) และเงิน 4.1 ล้านล้านวอน (ราว 98,000 ล้านบาท) จากโครงการจ้างงานเยาวชนและการพัฒนาแหล่งก๊าซในทะเลลึกรวมถึงบล็อกการขึ้นเงินเดือนทหารชั้นผู้น้อย

“ตั้งแต่เริ่มบริหารประเทศ สภาผู้แทนราษฎรได้ยื่นคำร้องถอดถอนเจ้าหน้าที่รัฐบาล 22 ครั้งและตั้งแต่เปิดสมัยประชุมครั้งที่ 22 เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พวกเขาได้ยื่นคำร้องอีก 10 ครั้ง สถานการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ใช่แค่ในประวัติศาสตร์ของประเทศเราเท่านั้น แต่รวมถึงในประวัติศาสตร์โลกด้วย” ประธานาธิบดียุนกล่าวในแถลงการณ์ประกาศอัยการศึก

คะแนนนิยมของยุนลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 17% จากการสำรวจของแกลลัพ โคเรีย (Gallup Korea) โดยผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ระบุว่าสาเหตุหลักเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง

4 ธ.ค.2024

01.01 น. สส. 190 คนจาก 300 คนฝ่าวงล้อมทหารและตำรวจที่ปิดทาง
เข้าทุกช่องทาง เข้าไปในตึกรัฐสภาและโหวตยกเลิกกฎอัยการศึก ด้วยคะแนนเอกฉันท์ตามองค์ประชุม 190 : 0 เสียง
02.20 น. กองทัพเกาหลีประกาศกฎอัยการศึกยังมีผลบังคับใช้จนกว่าประธานาธิบดีจะมีคำสั่งให้ยกเลิก ขณะที่ประชาชนรวมตัวประท้วงหน้ารัฐสภาและสส.ยังปักหลักอยู่ภายในอาคารรัฐสภา

04.27 น.ประธานาธิบดียุน ซอกยอลยอมถอยและยอมรับเสียงของรัฐสภา ประกาศยกเลิกใช้กฎอัยการศึกอย่างเป็นทางการ

เจ้าหน้าที่ระดับสูง รวมถึงหัวหน้าเจ้าหน้าที่และสมาชิกคณะรัฐมนตรี ได้ยื่นใบลาออก ประธานาธิบดียุนเก็บตัวเงียบเกือบทั้งวัน โดยมีรายงานว่าพักอยู่ที่บ้านพัก

โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติ (NSC) ประจำทำเนียบขาวแสดงความโล่งใจต่อการยกเลิก โดยระบุว่า เกาหลีใต้ไม่ได้ปรึกษาสหรัฐล่วงหน้าเกี่ยวกับการประกาศกฎอัยการศึก

09.00 น. ฝ่ายค้านประกาศเดินหน้ายื่นญัตติถอดถอนประธานาธิบดี

14.30 น. พรรคฝ่ายค้าน 6 พรรคนำโดยพรรคประชาธิปไตย (DP) ได้ยื่นญัตติร่วมกันเพื่อถอดถอนนายยุน ซึ่งลงนามโดยสมาชิกรัฐสภา 191 คน และมีแผนที่จะลงคะแนนเสียงถอดถอนในวันนี้ (7 ธันวาคม) นายอี จุนซอก สมาชิกรัฐสภาจากพรรครีฟอร์ม อ้างว่าได้เสียงสส.จากพรรคพลังประชาชน ( PPP) อย่างน้อย 6 คน

7 ธ.ค.2024

ประธานาธิบดียุนกล่าวขอโทษในความพยายามประกาศกฎอัยการศึกและบอกว่าจะไม่ทำอีก แต่ไม่ลาออก ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนว่า ยุนไม่ทำตามแรงกดดันมหาศาลแม้จากภายในพรรคตัวเอง (พรรคพลังประชาชน) ก่อนการโหวตลงมติถอดถอนออกจากตำแหน่งในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า

ยุนกล่าวว่า ตนเองไม่ได้หาทางเลี่ยงความรับผิดชอบทางกฎหมายและทางการเมือง ซึ่งเป็นผลมาจากการประกาศกฎอัยการศึกที่เกิดจากความจนตรอกสิ้นไร้หนทาง

“ผมเสียใจอย่างมากและต้องการที่จะขอโทษด้วยใจจริงต่อประชาชนที่ตกใจ ผมได้ให้ทางพรรคดำเนินการเพื่อทำให้สถานการณ์การเมืองนิ่งในอนาคต รวมถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับวาระในการดำรงตำแหน่งของผมด้วย”

สส.มีกำหนดโหวตในญัตติของแกนนำพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งคือพรรคประชาธิปไตย (DP) เพื่อถอดถอนประธานาธิบดียุนออกจากตำแหน่งในวันนี้ (7 ธันวาคม) ซึ่งต้องการเสียงจากสส.พรรค PPP ของรัฐบาลอีกเพียง 8 เสียง ด้านประชาชนชุมนุมประท้วงหลายหมื่นคนบริเวณหน้าอาคารรัฐสภาตั้งแต่ช่วงเช้า

สส.พรรคพลังประชาชน (PPP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลเรียกร้องให้ประธานาธิบดียุนลาออกก่อนการโหวตลงมติ โดยให้เหตุผลว่า ไม่ต้องการให้เหตุการณ์ซ้ำรอยประธานาธิบดีปาร์ก กึนเฮที่ถูกถอดถอนในปี 2016 ซึ่งก่อนถูกถอดออกจากตำแหน่งมีประชาชนออกมาประท้วงนานหลายเดือน จนทำให้พรรคของเธอต้องล่มสลายตามไปด้วย และทำให้พรรคเสรีนิยมเป็นฝ่ายชนะเลือกตั้ง

กระทั่งล่าสุด ประธานาธิบดียุนรอดจากการโหวตถอดถอนเนื่องจากสส. พรรครัฐบาลใช้กลยุทธ์ไม่เข้าร่วมการโหวตส่งผลให้การโหวตในญัตติถอดถอนไร้ผล เนื่องจากมีผู้ร่วมลงคะแนนไม่ถึง 2 ใน 3 โดยมี 195 เสียงจาก 300 เสียง

ฝ่ายค้านประกาศจะเสนอญัตติยื่นถอดถอนประธานาธิบดียุนอีกครั้งในวันพุธหน้า (11 ธันวาคม)

ทั้งนี้ อัยการ ตำรวจและหน่วยงานสืบสวนการทุจริตในเจ้าหน้าที่ระดับสูงเปิดการสอบสวนประธานาธิบดียุนและเจ้าหน้าที่อาวุโสคนอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับอัยการศึกแล้ว เพื่อนำไปสู่การตั้งข้อหากบฏและการใช้อำนาจในทางที่ผิด

 

อ้างอิง

• Reuters

• Korea Pro

• CNN

• BBC