เฮงเฮง BYD ยอดขายรถทั่วโลกส่อเกินเป้าปี 2024 แซง Ford และ Honda

BYD YangWang U8 ถูกจัดแสดงที่งาน Paris Auto Show 2024 ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อ 14 ตุลาคม 2024 (ภาพ รอยเตอร์)

สมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลแห่งประเทศจีน (CPCA) เปิดเผยยอดขายรถยนต์ทั่วโลกในเดือน พ.ย. 2024 ปรากฏว่า บีวายดี บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีนกำลังจะทำยอดขายเกินเป้าหมายปี 2024 และจึงทำให้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นด้วย

รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า บีวายดี (BYD) บริษัทผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของจีนกำลังจะได้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มมากขึ้น เมื่อยอดขายทั่วโลกในเดือนพฤศจิกายนกำลังจะทำให้เกินเป้ายอดขายปี 2024 และอาจแซงหน้าฟอร์ดและฮอนด้า อ้างอิงจากการเปิดเผยตัวเลขของสมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลแห่งประเทศจีน (CPCA)

ในปีนี้บีวายดีมีการขยายตัวที่มากเป็นพิเศษ ทั้งเพิ่มกำลังการผลิต จ้างพนักงานเพิ่มจำนวนมากเพื่อเพิ่มรายได้ ซึ่งในไตรมาส 3/2024 รายได้บีวายดีพุ่งขึ้น 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วเป็น 201,100 ล้านหยวน (ราว 940,000 ล้านบาท) ถือเป็นการเอาชนะรายได้รายไตรมาสเหนือบริษัทเทสลา (Tesla) อย่างชัดเจนเป็นครั้งแรก

ด้วยยอดขายที่แข็งแกร่งในจีนที่ยังคงต่อเนื่องในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้บีวายดี กำลังอยู่ในเส้นทางที่จะบรรลุเป้ายอดขายประจำปีที่ 4 ล้านคัน ซึ่งมากกว่ายอดขายทั่วโลกของฮอนด้า (Honda) ของญี่ปุ่นและฟอร์ด (Ford) ที่มีฐานอยู่ในเมืองดีทรอยต์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 2024

บีวายดีส่งรถ 3.76 ล้านคันในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ รวมถึงในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมามีจำนวน 506,804 คัน

ยอดขายที่แข็งแกร่งของบริษัท ซึ่งนำโดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีการแข่งขันสูงอย่างเทคโนโลยีปลั๊ก-อิน ไฮบริดล่าสุด มีแนวโน้มที่จะแสดงให้เห็นว่าบริษัทได้ส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้นด้วย เมื่อสมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลแห่งประเทศจีน (CPCA) เปิดเผยข้อมูลยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

ADVERTISMENT

ในเดือน ม.ค.-ต.ค. บีวายดีมีส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ในจีนอยู่ที่ 16.2% ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 12.5% ในปี 2023 ทั้งนี้ ส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ในจีนของบีวายดีมีมากกว่า 90% ของยอดขายรวมทั้งหมดของบริษัท

และเมื่อเปรียบเทียบกับบริษัท SAIC และ FAW Group สองบริษัทร่วมทุนของโฟล์กสวาเกน (Volkswagen) มีส่วนแบ่งตลาดรวมกัน 12.5% เมื่อเปรียบเทียบกับ 14.2% ในช่วงเดียวกันของปี 2023

ADVERTISMENT

หากยอดขายยังคงเป็นไปตามทิศทางนี้ บีวายดีอาจขายได้มากกว่า 6 ล้านคันในอีก 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งจะทำให้มียอดขายที่เท่ากันกับกลุ่มบริษัทผลิตรถยนต์ชั้นนำอื่น ๆ ของโลก อาทิ เช่น เจเนอรัล มอเตอร์ส หรือ General Motors (GM) และสเตลแลนติส (Stellantis)

หน่วยธุรกิจวิจัยของซิตี (Citi) ระบุว่า บีวายดีหวังที่จะส่งรถยนต์ 5-6 ล้านคันในปี 2025 แต่บีวายดียังไม่ออกมาตอบสนองแต่อย่างใด

ในระหว่างเดือน ส.ค.-ต.ค. ปี 2024 บีวายดีเพิ่มกำลังการผลิตอีกเกือบราว 200,000 คัน และจ้างพนักงาน 200,000 คนสำหรับการผลิตรถยนต์และชิ้นส่วน

ณ เดือนกันยายน บีวายดีมีพนักงานทั้งหมดใกล้ถึง 1 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากราว 703,500 คนเมื่อสิ้นปี 2023

ตามรายงานของสื่อรัฐบาลจีนระบุว่า ความพยายามในการเพิ่มขนาดช่วยให้บริษัทสามารถเติบโตแซงหน้าคู่แข่งได้ ควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น และเอาชนะสงครามราคาที่โหดร้ายในจีนที่บีบผู้ผลิตรถยนต์ต่างชาติหลายราย จากการที่บีวายดีขอให้ซัพพลายเออร์หลายสิบรายลดราคา

นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ถึงปัญหาที่รุมเร้าของผู้ผลิตรถยนต์ต่างชาติในประเทศจีน จีเอ็ม (GM) เผยเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าจะมีค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานในจีนมากกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 170,000 ล้านบาท) เนื่องจากการปรับโครงสร้างใหม่และมูลค่าที่ลดลงของบริษัทร่วมทุนที่ประสบภาวะขาดทุนและยอดขายที่ลดลง