ข้อมูลเผยแพร่ครั้งแรกวันที่ 12 ธันวาคม อัพเดตล่าสุดเมื่อ 13 ธันวาคม เวลา 15.50 น.
โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐได้รับเกียรติให้ตีระฆังเปิดตลาดหุ้นนิวยอร์กพร้อมกับการประกาศยกย่องให้เป็นบุคคลแห่งปีของนิตยสารไทม์ และยังมีรายงานว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนได้รับเชิญให้เข้าร่วมพิธีสาบานตนของทรัมป์ด้วย
รอยเตอร์รายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐตีระฆังเปิดตลาดหุ้นนิวยอร์กในวันนี้ (12 ธันวาคม) ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นวันเดียวกับเขาได้รับการเสนอชื่อให้เป็น “บุคคลแห่งปี” หรือ “Person of the Year” ของนิตยสารไทม์ เป็นครั้งที่ 2
ถือเป็นเครื่องวัดการกลับมาอย่างน่าทึ่งของทรัมป์ จากอดีตประธานาธิบดีที่ถูกสังคมรังเกียจและไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีที่แล้ว มาเป็นประธานาธิบดีชนะการเลือกตั้ง ซึ่งชนะอย่างเด็ดขาดในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
เอพี (AP) รายงานว่า ก่อนที่ทรัมป์จะตีระฆังเปิดงานในเวลา 9.30 น. ซึ่งเป็นครั้งแรกสำหรับทรัมป์ที่เป็นชาวนิวยอร์กโดยกำเนิด เขากล่าวสุนทรพจน์ว่า “เป็นเกียรติอย่างยิ่ง”
“นิตยสาร Time มอบเกียรติยศนี้เป็นครั้งที่สอง ผมคิดว่าครั้งนี้ผมชอบมันมากกว่า” ทรัมป์กล่าว
ทรัมป์พร้อมด้วยเมลาเนีย ทรัมป์ ภรรยา อิวานกาและทิฟฟานี ลูกสาว และเจดี แวนซ์ ว่าที่รองประธานาธิบดี ยิ้มขณะที่ผู้คนตะโกนว่า “USA” ก่อนที่ทรัมป์จะเปิดตลาดซื้อขาย จากนั้นเขาก็ชูกำปั้นตามแบบฉบับของตัวเอง
ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์สร้างความมั่งคั่งในฐานะนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในนครนิวยอร์ก ก่อนเข้าสู่เส้นทางการเมือง ซึ่งในระหว่างการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก ทรัมป์วัดความสำเร็จจากความแข็งแกร่งของตลาดหุ้นนิวยอร์ก ซึ่งในปัจจุบันแสดงสัญญาณยินดีต้อนรับต่อการเป็นประธานาธิบดีอีกสมัยของทรัมป์
รายงานข่าวระบุว่า การตีระฆังแสดงถึงสัญญาณของการเริ่มต้นและการปิดวันซื้อขายของตลาดหุ้นนิวยอร์ก ซึ่งเป็นตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก และถือเป็นเกียรติ โดยในอดีตการกระทำดังกล่าวจะสงวนไว้สำหรับผู้บริหารบริษัทที่เฉลิมฉลองการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรก หรือเหตุการณ์สำคัญอื่น ๆ ของตลาดหุ้นแห่งนี้ แต่คนดังและนักการเมือง เช่น โรนัลด์ เรแกน, เนลสัน แมนเดลา และอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ ก็เคยตีระฆังเช่นกัน
ไทม์เคยยกย่องให้ทรัมป์เป็นบุคคลแห่งปีมาก่อนเมื่อปี 2016 เมื่อชนะเลือกตั้งและยังให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ด้วย เมื่อปี 2020 หลังจากทั้งคู่ชนะทรัมป์ในการเลือกตั้ง ตลอดจนเทย์เลอร์ สวิฟต์ ศิลปินพ็อประดับโลกได้รับรางวัลนี้เมื่อปี 2023
วันเดียวกันรอยเตอร์ (Reuters) รายงานอ้างซีบีเอส นิวส์ (CBS News) ว่า ทรัมป์ เชิญ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 20 มกราคม 2025
รายงานข่าวจากซีบีเอสนิวส์ระบุว่า ทรัมป์ส่งหนังสือเชิญประธานาธิบดีสีเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ไม่นานหลังจากการเลือกตั้ง แต่ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าประธานาธิบดีสี ตอบรับคำเชิญหรือไม่
ทรัมป์กล่าวในการให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีนิวส์ (NBC News) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า เขาเข้ากันได้ดีกับประธานาธิบดีสี และได้สื่อสารกันเมื่อเร็ว ๆ นี้เอง โดยล่าสุดที่คุยกันเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ ทรัมป์ได้แต่งตั้งบุคคลดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีที่มีท่าทีแข็งกร้าวต่อจีนหรือสายเหยี่ยว ซึ่งรวมถึงมาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ทรัมป์ระบุว่าตนจะขึ้นภาษีสินค้าจีน 10% หากรัฐบาลจีนไม่ดำเนินการมากกว่านี้ เพื่อหยุดการลักลอบขนเฟนทานิลที่ทำให้เสพติด ทรัมป์ยังขู่เก็บภาษีสินค้าจีน 60% ในระหว่างการหาเสียงด้วย
ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน สื่อของทางการจีนเตือนว่า คำมั่นสัญญาที่จะขึ้นภาษีสินค้าจีนจากประเด็นเฟนทานิลนั้น อาจลากให้มหาอำนาจทางเศรษฐกิจสองอันดับแรกของโลกเข้าไปสู่สงครามภาษีที่ทำลายล้างซึ่งกันและกัน