อังกฤษสิ้นมนต์ศูนย์กลางศิลปะ ? ศิลปินกำลังแห่หนี เพราะรายได้ถดถอยหนัก

ลอนดอน
ผู้คนในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ (หมายเหตุ : ภาพประกอบไม่เจาะจงบุคคลที่ระบุในเนื้อหา)

สหราชอาณาจักรเป็นหนึ่งในประเทศที่ขึ้นชื่อว่ามีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์ผลงานและการเติบโตในวิชาชีพของบรรดาศิลปินสร้างสรรค์ภาพ โดยเฉพาะกรุงลอนดอน เมืองหลวงของอังกฤษ ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในศูนย์กลางศิลปะนานาชาติ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้กลับมีข้อมูลว่าสหราชอาณาจักรอาจกำลังสูญเสียสถานะนี้ไป เพราะศิลปินจะย้ายหนีไปที่อื่นแทน 

มีการรายงานของ เดอะ การ์เดียน (The Guardian) สื่อดังของอังกฤษเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2024 เผยให้เห็นว่า นับตั้งแต่ปี 2010 มาถึงปีปัจจุบัน รายได้ของเหล่าศิลปินทัศนศิลป์ (Visual Artist) ในสหราชอาณาจักรลดลงไปมากถึง 40% ด้วยเหตุนี้ผู้เชี่ยวชาญจึงคาดการณ์ว่า บรรดาศิลปินจะแห่หนีออกจากสหราชอาณาจักรไปยังสหภาพยุโรป หรืออียู (European Union) ที่มีสภาพแวดล้อมการทำงานศิลปะที่ดึงดูดใจมากกว่า ซึ่งจะส่งผลให้สหราชอาณาจักรขาดแคลนศิลปินหรือบรรดาผู้ที่มีพรสวรรค์ด้านศิลปะการสร้างสรรค์ภาพในอนาคต

เดอะ การ์เดียน อ้างอิงข้อมูลจากรายงานที่สมาคมลิขสิทธิ์การออกแบบและศิลปิน (Design and Artists Copyright Society: DACS) มอบหมายให้จัดทำ ซึ่งรายงานเผยผลการสำรวจว่า ศิลปินทัศนศิลป์ในสหราชอาณาจักรมีรายได้เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 12,500 ปอนด์ (ประมาณ 540,000 บาท) โดยจำนวนศิลปินราว 80% จากทั้งหมด 1,200 คนที่ตอบแบบสอบถาม กล่าวว่า รายได้ของพวกเขานั้นไม่แน่นอน หรือไม่แน่นอนอย่างมาก

สถานการณ์ด้านรายได้เลวร้ายยิ่งกว่าสำหรับศิลปินผู้หญิง ซึ่งมีรายได้ต่ำกว่าผู้ชายถึง 40% ในขณะที่ศิลปินที่เป็นผู้พิการมีรายได้เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 3,750 ปอนด์ (ประมาณ 162,000 บาท) ในส่วนของศิลปินที่ทำงานที่สองหรืองานที่สามเพิ่มเติม เช่น งานสอนศิลปะ มีรายได้เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 17,500 ปอนด์ (ประมาณ 761,000 บาท) ซึ่งต่ำกว่ารายได้เฉลี่ยต่อปีในสหราชอาณาจักร ซึ่งอยู่ที่มากกว่า 37,000 ปอนด์ (ประมาณ 1,610,000 บาท) ต่อปี

คริสเตียน ซิมเมอร์มันน์ (Christian Zimmermann) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของ DACS กล่าวว่า สถานการณ์นี้เป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างมากสำหรับเหล่าศิลปินทัศนศิลป์ที่พยายามจะทำอาชีพนี้ในสหราชอาณาจักร จนมีหลายคนตัดสินใจย้ายออกไปที่อื่นเพื่อที่จะได้ทำอาชีพนี้ต่อไป 

“รายงานฉบับนี้ฉาพภาพที่ชัดเจนมาก รายได้เฉลี่ยนั้น 12,500 ปอนด์ (543,000 บาท) ต่อปี นั้นน่าตกใจมาก เพราะมันต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำทั่วไปเสียอีก และนี่ไม่ใช่อาชีพการงานที่สามารถเลี้ยงชีพได้” ซิมเมอร์มันน์กล่าว อีกทั้งยังเสริมว่า มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างรายได้ในสหราชอาณาจักรและในประเทศอื่น ๆ ผู้คนอาจจำต้องย้ายออกจากสหราชอาณาจักร เพราะที่อื่นนั้นมีสภาพแวดล้อมในการประกอบอาชีพที่ดีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในสหภาพยุโรป 

ADVERTISMENT

ดร.เอมี่ โทมัส (Amy Thomas) และ ดร.อาเธอร์ เอลิงเกอร์ (Arthur Ehlinger) สองนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยกลาสโกว (University of Glasgow) กล่าวว่า เหล่าศิลปินพบว่ารายได้ของพวกเขานั้นถูกบีบคั้นจากทั้งการตัดลดเงินทุนสนับสนุน ภาวะเงินเฟ้อ และการเพิ่มขึ้นของปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI 

หนึ่งในศิลปินที่ถูกสัมภาษณ์ กล่าวว่า ค่าเช่าบ้านหรือสตูดิโอที่พวกเขาจ่ายนั้นเพิ่มสูงขึ้นราว 40% ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ทำให้พวกเขาต้องหันไปพึ่งระบบเครดิตสากล (Universal Credit) ซึ่งเป็นระบบเงินช่วยเหลือค่าครองชีพของรัฐบาลสหราชอาณาจักร ในขณะที่เงินทุนของสภาศิลปะแห่งอังกฤษ (Arts Council England)  ถูกตัดลดลงไปแล้ว 30% เมื่อเทียบกับการสำรวจครั้งล่าสุดในปี 2010  

ADVERTISMENT

ซิมเมอร์มันน์กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่องานในระดับเริ่มต้นและงานที่ได้รับค่าจ้างต่ำ แต่ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อศิลปินก็ยังรวมถึงการตัดเงินที่ใช้จ่ายไปกับการศิลปะด้วย ทั้งองค์กรการกุศลที่กำลังล้มละลาย ธุรกิจต่าง ๆ ที่ปิดตัวลง และแรงกดดันทางการเงินต่องานศิลปะก็กำลังเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย 

อย่างไรก็ตาม ดร.โทมัสกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจัยเรื่องการเข้ามามีบทบาทของ AI ที่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของศิลปินนั้นเป็นเพียงฟางเส้นสุดท้ายเท่านั้น เพราะจริง ๆ แล้วรายได้ของศิลปินหดหายไปจากสาเหตุอื่น ๆ อยู่ก่อนแล้ว  

แลร์รี อาเชียมปง (Larry Achiampong) ศิลปินลูกครึ่งอังกฤษ-กานาที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในปี 2022 จากการจัดแสดงงานในนิทรรศการศิลปะ Wayfinder กล่าวว่า เงินรายได้ที่ศิลปินได้รับนั้นลดลงอย่างมาก และค่าตอบแทนศิลปินมักจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่สถาบันต่าง ๆ หยิบยกขึ้นมาคุย ทั้งยังมีข้อแก้ตัวต่าง ๆ มากมาย และเมื่อคำนวณแล้วเขาสรุปได้ว่า ในการจัดแสดงงานนั้น เขามักจะต้องควักเงินจ่ายเอง  

อาเชียมปงเล่าอีกว่า เขาได้รับข้อเสนอเป็นเงิน 350 ปอนด์ (15,200 บาท) เพื่อนำผลงานเข้าร่วมงานนิทรรศการแบบกลุ่มซึ่งมีการทัวร์ไปจัดแสดงที่สถาบัน 4 แห่ง แม้ว่าตัวเขาเองมีความเห็นใจองค์กรที่ต้องลดเงินทุน แต่นั่นไม่ใช่ข้อแก้ตัวที่องค์กรเหล่านั้นจะปฏิบัติต่อศิลปินอย่างไม่ให้ความสำคัญเช่นนั้น 

นอกจากนี้ อาเชียมปงกล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่เขาเป็นศิลปินมืออาชีพมาเกือบจะ 20 ปี เขาก็เริ่มคิดที่จะเปลี่ยนสายอาชีพบ้าง ถึงแม้ว่าเขาจะเคยได้รับการยอมรับ และเคยได้จัดแสดงงานในสถาบันที่โด่งดังที่สุดในสหราชอาณาจักรมาแล้วก็ตาม 

“ในอีก 10 ปีข้างหน้า ในฐานะที่เป็นพ่อของลูกสองคน ผมไม่สามารถทำแบบนี้ต่อไปได้อีกแล้ว ต้องมี [ความเปลี่ยนแปลง] บางอย่างเกิดขึ้น” 

เขาบอกอีกว่า ได้ลองมองหาแนวทางอื่น ๆ ที่จะสามารถหาเงินเสริมได้ อย่างเช่น การเล่นเกม เพราะถ้าหากเขายังทำแค่อาชีพศิลปินต่อไป เขาคงจะได้หยุดมันภายใน 5 ปีแน่นอน