จีนใช้ “ประตูหลัง” รับมือทรัมป์ นัดเจอบิ๊ก “วอลล์สตรีต” ถี่ยิบ

Xi Jinping
สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน (ภาพโดย Mauro PIMENTEL / AFP)
คอลัมน์ : ชีพจรเศรษฐกิจโลก
ผู้เขียน : นงนุช สิงหเดชะ

จีนเร่งเครื่องพบปะกับบรรดาผู้บริหารระดับสูงทางการเงินของสหรัฐอเมริกา หลังจากผลการเลือกตั้งออกมาว่า “โดนัลด์ ทรัมป์” จะได้กลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกรอบ ซึ่งย่อมไม่ใช่ข่าวดีสำหรับจีนแน่นอน เนื่องจากทรัมป์ประกาศเอาไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงหาเสียงแล้วว่าจะเก็บภาษีสินค้าจากจีนเพิ่ม 60%

มีรายงานว่า ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมา หลังทราบผลการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐ นายเหอ ลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีนและประธานคณะกรรมาธิการการเงินและเศรษฐกิจของพรรคคอมมิวนิสต์จีน พยายามหาช่องทางสร้างความสัมพันธ์กับบรรดาผู้บริหารด้านการเงินของสหรัฐหลายคน ก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม 2025 ทั้งนี้ ก็เพื่อ “ปูทาง” สำหรับเข้าถึงใครก็ตามในขณะนี้ที่ถูกคาดหมายว่าจะเข้าสู่อำนาจ หรือมีตำแหน่งที่จะให้คุณให้โทษจีนในคณะรัฐบาลใหม่ของทรัมป์

ตามรายงานของสื่อจีนระบุว่า วันที่ 5 ธันวาคม นายเหอ พบกับลาร์ ฟิงค์ ประธานและซีอีโอของแบล็กร็อก วันที่ 4 ธันวาคมพบกับคู จอห์น อี.วอลดรอน ประธานและซีอีโอของโกลด์แมน แซคส์ และก่อนหน้านั้นวันที่ 21 พฤศจิกายน พบกับเจน เฟรเซอร์ ซีอีโอของซิติกรุ๊ป นอกจากนั้น ยังมีซีอีโอของอินเวสโค และ HSBC การพบปะทั้งหมดเกิดขึ้นในปักกิ่ง

“ปีเตอร์ อเล็กซานเดอร์” ผู้ก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษา Z-Ben Advisors ในเซี่ยงไฮ้ ชี้ว่าจีนกำลังแสวงหาทุกหนทางที่เป็นไปได้เพื่อเข้าถึงใครก็ตามที่กำลังจะได้รับเลือกให้เข้าร่วมรัฐบาลทรัมป์ “การใช้ประตูหลังเป็นวิธีที่จีนชื่นชอบในการสร้างช่องทางสื่อสาร”

ทรัมป์อยู่ระหว่างการประกาศแต่งตั้งบุคคลที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีหรือทำงานในรัฐบาล โดยมีรายงานว่ามีอย่างน้อย 10 คนที่เป็นระดับมหาเศรษฐีที่ถูกคาดหมายว่าจะได้รับเลือกจากทรัมป์ ซึ่งรวมถึงสกอตต์ เบสเซนต์ ที่จะมาเป็นรัฐมนตรีคลัง และฮาวเวิร์ด ลุตนิก ซีอีโอของแคนเทอร์ ฟิตซ์เจอรัลด์ ว่าที่รัฐมนตรีพาณิชย์

คลาร์ก แพ็กการ์ด นักวิชาการสถาบันวิจัยคาโต ระบุว่าผู้บริหารในวอลล์สตรีตเหล่านี้ที่กำลังจะมารับตำแหน่งรัฐมนตรีคลังและพาณิชย์ จะแสดงบทบาท “สายกลาง” เกี่ยวกับนโยบายปกป้องการค้าของทรัมป์ ที่จะมาช่วยลดความรุนแรงก้าวร้าวของทรัมป์ โดยเฉพาะตำแหน่งรัฐมนตรีคลังจะมีความอ่อนไหวต่อปฏิกิริยาของตลาดหุ้นที่กำลังไปได้ดีในขณะนี้ เชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่จะทำให้ทรัมป์กลัวก็คือปฏิกิริยาของตลาดหุ้น จึงอาจทำให้ทรัมป์ลดความก้าวร้าวลง

ADVERTISMENT

จงหยวน โซ หลิว นักวิชาการอาวุโสด้านจีนศึกษา สภาความสัมพันธ์ต่างประเทศ ให้ความเห็นว่า ความเคลื่อนไหวของจีน ทั้งการเชิญผู้บริหารวอลล์สตรีตไปพบ รวมทั้งการควบคุมการส่งออกแร่สำคัญไปยังสหรัฐ แสดงให้เห็นว่าจีนกำลังเตรียมพร้อมรับมือ “ฉากทัศน์ที่แย่ที่สุด” จากทรัมป์ และขณะเดียวกันก็ “เปิดทางเลือก” ของตัวเองเอาไว้

สื่อของจีนรายงานว่า เป้าหมายของรองนายกรัฐมนตรีจีนที่พบปะกับผู้บริหารด้านการเงินของสหรัฐ น่าจะต้องการส่งสัญญาณว่าจีนเต็มใจจะเปิดภาคการเงินให้กับต่างชาติและดึงดูดการลงทุนระยะยาวจากนักลงทุนประเภทสถาบันจากต่างประเทศ เพราะเงินทุนจากต่างประเทศคือสัญลักษณ์ของการสนับสนุนตลาดภายในประเทศจีน

ADVERTISMENT

ในอีกด้านหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงการเตรียมพร้อมของจีน ก็คือคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมือง หรือโปลิตบูโรแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งมีอำนาจสูงสุดในการบริหารประเทศ ได้ออกแถลงการณ์ล่าสุด ส่งสัญญาณว่าการประชุมด้านเศรษฐกิจประจำปีที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 11-12 ธันวาคมนี้ จีนพร้อมจะใช้มาตรการการคลัง “เชิงรุก” มากขึ้น รวมทั้งผ่อนคลายด้านการเงินในปี 2025 เพื่อเพิ่มการบริโภคในประเทศ จะสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้น

การประชุมดังกล่าวทางคณะกรรมการจะมีการทบทวนผลงานด้านเศรษฐกิจและการปฏิบัติตามนโยบายต่าง ๆ ในปีปัจจุบันว่าเป็นอย่างไรบ้าง พร้อมทั้งจะมีการกำหนดเรื่องสำคัญอันดับแรกที่ต้องดำเนินการในปีถัดไป หรือปี 2025 ด้วย

ถึงแม้จะยังไม่มีการประกาศรายละเอียดเจาะจง จนกว่าจะถึงเดือนมีนาคม 2025 แต่คาดว่ารัฐบาลจีนมีเป้าหมายจะรักษาอัตราการเติบโตไว้ที่ 5% ระดับเดียวกับปีปัจจุบัน

ขณะที่สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” ในฐานะผู้นำของคณะกรรมการ กระตุ้นให้มีการ “เตรียมพร้อมเต็มที่” เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจในปี 2025 แม้ว่าจะประสบความไม่แน่นอนและความท้าทายหลายอย่าง