หลังจากก่อนหน้านี้กูเกิลระบุว่า จะไม่ต่อสัญญากับกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ หรือ เพนตากอน (Pentagon) ในโครงการรักษาความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี “มาเวน” (Maven) ซึ่งจะจบลงในเดือนมีนาคม 2019
สำหรับโครงการมาเวนคือโครงการที่นำเอาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ (AI) พัฒนาโดรนคุณภาพสูงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ เพื่อใช้ตรวจรักษาความปลอดภัย โดยโครงการได้เริ่มตั้งเเต่มีนาคมที่ผ่านมา
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
ทั้งนี้ในโครงการดังกล่าว กูเกิลจะช่วยพัฒนาโดรนของเพนตากอนด้วยเทคโนโลยี Image Classification หรือการแยกแยะสิ่งของต่างๆ จากการถ่ายภาพด้วยโดรน ไม่ว่าจะเป็นสิ่งนี้คือรถยนต์ สิ่งนี้คืออาคาร ซึ่งการวิเคราะห์ภาพจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการโจมตีได้
อย่างไรก็ตามภายหลังจากการเข้าร่วมโครงการมาเวน พนักงานของกูเกิลดูเหมือนจะไม่พอใจ ทำให้กูเกิลออกมาประกาศว่า จะยกเลิกข้อตกลงดังกล่าวหลังหมดสัญญาในเดือนมีนาคมปีหน้า เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบของพนักงานกูเกิล
เหตุจราจลของพนักงานกูเกิล เริ่มจากการร่วมลงชื่อกว่าพันรายชื่อ เพื่อย้ำว่าการกระทำของกูเกิลขัดต่อหลักจริยธรรมของบริษัท ในจดหมายระบุว่า “กูเกิลไม่ควรทำธุรกิจกับสงคราม”
ซันดาร์ พิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกูเกิล ให้คำมั่นเกี่ยวกับเเนวทางสำหรับโครงการปัญญาประดิษฐ์ในอนาคตว่าจะสร้างประโยชน์เเก่สังคม ซึ่งจะหลีกเลี่ยงเทคโนโลยีที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อส่วนรวม
“เราทราบดีว่าเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพดังกล่าวนำมาซึ่งคำถามที่ว่าการพัฒนาเอไอจะมีผลกระทบต่อสังคม เเละเราต้องการความชัดเจนในช่วงเวลาที่ยังไม่พัฒนาเอไอเพื่อใช้เป็นอาวุธ เรายังคงทำงานร่วมกับรัฐบาลเเละกองทัพในหลายๆด้าน รวมถึงการรักษาความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ การฝึกทหาร เเละการดูเเลรักษาสุขภาพของทหารผ่านศึก”
เเจ็กกี้ สโนว์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสหภาพเสรีภาพพลเรือนอเมริกัน กล่าวว่า ข้อเสนอนี้ได้รับการตอบสนองจากผู้สนับสนุนเสรีภาพพลเรือน ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี เเละจะไม่มีการล่วงละเมิด
นอกจากนี้ สโนว์ ยังกล่าวในทวิตเตอร์ว่า หลักการเหล่านี้ไม่ได้ห้ามให้ผู้อื่นใช้เอไอ ของกูเกิล ในการสร้างอาวุธสงคราม เเละการเฝ้าระวัง