ผลมาตรการกระตุ้นเริ่มจาง ยอดค้าปลีกจีนเดือนพฤศจิกายนชะลอตัว

ผู้คนเดินผ่านย่านการค้าที่นครเซี่ยงไฮ้ ภาพโดย REUTERS/Tingshu Wang
ผู้คนเดินผ่านย่านการค้าที่นครเซี่ยงไฮ้ ภาพโดย REUTERS/Tingshu Wang

ผลมาตรการกระตุ้นเริ่มจาง ยอดค้าปลีกจีนเดือนพฤศจิกายนโต 3% (YOY) ต่ำกว่า 4.8% ในเดือนตุลาคม ย้ำเตือนรัฐบาลจีนให้เร่งกระตุ้นภาคอสังหาฯ

บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า ตามข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBSC) ที่เผยแพร่ในวันที่ 16 ธันวาคม 2024 พบว่ายอดค้าปลีกจีนเดือนพฤศจิกายนโต 3% เมื่อเทียบเป็นรายปี (YOY) ต่ำสุดในรอบสามเดือน และต่ำกว่า 4.8% ในเดือนตุลาคมอย่างมีนัยสำคัญ ย้ำเตือนรัฐบาลจีนให้เร่งกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ 

ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 5.4% ดีขึ้นเล็กน้อยจากที่เพิ่มขึ้น 5.3% ในเดือนตุลาคม สอดคล้องกับคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนระบุว่า เศรษฐกิจโดยรวมมีเสถียรภาพและมีการเติบโต แต่ยังจำเป็นต้องพิจารณาถึงสภาวะแวดล้อมภายนอกที่มีความซับซ้อนเพิ่มขึ้น และอุปสงค์ภายในประเทศที่ยังขาดแคลน

แม้ยอดค้าปลีกยังคงอ่อนแอ แต่ข้าวของเครื่องใช้ในครัวเรือนและรถยนต์กลับมียอดขายเติบโตแข็งแรง เนื่องด้วยเงินอุดหนุนจากภาครัฐ ด้านเครื่องสำอางค์มียอดขายตกลงหนักสุดถึง 26% เมื่อเทียบจากปีก่อน

ดัชนี CSI300 ดิ่งลง 16.31 จุดอยู่ที่ 3,916.73 จุด ณ เวลา 10.06 น. อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะ 10 ปีร่วงลง เหลือ 1.71% อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินหยวนค่อนข้างคงที่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ADVERTISMENT

เศรษฐกิจจีนแสดงสัญญาณการฟื้นตัวเบื้องต้นในเดือนตุลาคม หลังจากรัฐบาลจีนประกาศมาตรการกระตุ้นหลายชุด เพื่อเร่งการเติบโตให้ถึงเป้าหมาย 5% 

รัฐบาลจีนกำลังผลักดันยอดค้าปลีกด้วยการผลักดันภาคการผลิต เนื่องจากนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ยอดค้าปลีกมีแนวโน้มเติบโตตามยอดการผลิตภาคอุตสาหกรรม จนถูกสหรัฐและสหภาพยุโรปกล่าวหาว่าจีนทำการทุ่มตลาดด้วยสินค้าราคาถูก

ADVERTISMENT

ภัยจากสงครามการค้าครั้งใหม่จากการขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของโดนัลด์ ทรัมป์ อาจลดบทบาทของภาคการส่งออกจีนลง หลังจากที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนตลอดทั้งปีมากถึงเกือบ 1 ใน 4 

ในการประชุมคณะทำงานด้านเศรษฐกิจส่วนกลาง (Central Economic Work Conference : CEWC) ระหว่างวันที่ 11-12 ธันวาคม ผู้กำหนดนโยบายระดับสูงของจีนยกระดับความสำคัญของการใช้จ่าย ให้คำมั่นว่าจะเพิ่มการขาดดุลทางการคลังเพื่อเพิ่มการบริโภค และขับเคลื่อนอุปสงค์ภายในประเทศ

อย่างไรก็ตาม ทางการจีนยังไม่ได้แสดงรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับแผนการใด ๆ โดยยืนกรานไม่ยอมรับข้อเสนอแจกเงินสดของนักเศรษฐศาสตร์ ซึ่งสี จิ้นผิงเตือนว่าจะทำให้ประเทศตกอยู่ในกับดักของ ‘สวัสดิการนิยม’

การขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสสามที่ชะลอตัวลงมากสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2023 ทำให้ผู้กำหนดนโยบายต้องออกมาตรการลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้น นอกจากนี้ยังขยายเพดานหนี้รัฐบาลท้องถิ่น เพื่อเปิดทางให้รัฐบาลท้องถิ่นสามารถกู้เพิ่มได้

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลทุกระดับเร่งขายพันธบัตรจนมีเงินทุนสุทธิเกิน 1 ล้านล้านหยวน (ราว 4.68 ล้านล้านบาท) มากถึงสี่เดือนติดในเดือนพฤศจิกายน 

อย่างไรก็ตาม ผลของการกระตุ้นยังไม่แสดงในด้านการลงทุน ตลอด 11 เดือนแรกของปี การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้น 3.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งชะลอลงจากช่วง 10 เดือนแรกของปี

ตลอด 11 เดือนแรกของปี การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ร่วงลง 10.4% แย่ลงกว่าเดิมเล็กน้อยที่ร่วงลง 10.3% ตลอด 10 เดือนแรกของปี แสดงให้เห็นว่าความเชื่อมั่นของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยังคงลดลง แม้ยอดขายที่อยู่อาศัยจะมีราคาลดลงและฟื้นตัวในช่วงแรกก็ตาม