ญี่ปุ่น ดัชนีภาคการผลิตยังหดตัว แต่ภาคบริการขยายตัวเพิ่มขึ้น

กรุงโตเกียว ภาพโดย REUTERS/Issei Kato
กรุงโตเกียว ภาพโดย REUTERS/Issei Kato

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเบื้องต้น (Flash PMI) ของญี่ปุ่นในเดือนธันวาคม พบว่าภาคการผลิตยังคงอยู่ในแดนหดตัวเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน ขณะที่ภาคบริการขยายตัวเพิ่มขึ้น 

รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า จากผลสำรวจทางธุรกิจซึ่งเผยแพร่ในวันที่ 16 ธันวาคม 2024 พบว่าตัวเลขกิจกรรมโรงงานของญี่ปุ่นหดตัวเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน จากอุปสงค์ที่ไม่คึกคัก ขณะที่ภาคบริการขยายตัวในเดือนธันวาคม เน้นย้ำว่าภาคธุรกิจพึ่งพาการเติบโตของภาคบริการมากขึ้น

เอยูจีบุนแบงก์ (au Jibun Bank) รายงานค่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเบื้องต้น (Flash PMI) ในภาคการผลิตหดตัวน้อยลงมาอยู่ที่ 49.5 จุด จากที่เคยหดตัวต่ำเป็น 49.0 จุดในเดือนพฤศจิกายน ถึงแม้อย่างนั้นก็ยังคงต่ำกว่าระดับ 50.0 ซึ่งเป็นเกณฑ์แบ่งระหว่างการขยายตัวหรือหดตัวมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน

อุซามะฮ์ ภัตติ (Usamah Bhatti) นักวิจัยเศรษฐกิจจากเอสแอนด์พี โกลบอล มาร์เก็ต อินเทลลิเจนซ์ (S&P Global Market Intelligence) กล่าวว่า แนวโน้มการขยายตัวที่ต่างกันระหว่างภาคผลิตและภาคบริการยังคงดำเนินต่อไป เนื่องจากภาคบริการมีการเติบโตที่เพิ่มขึ้นในภาคธุรกิจใหม่ตลอด 4 เดือน ขณะที่ผู้ผลิตมียอดการสั่งซื้อน้อยลง

ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของภาคโรงงานอ่อนแอสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2022 จากแรงกดดันด้านต้นทุน และราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นมากสุดในรอบ 4 เดือน ส่วนราคาผลผลิตพุ่งทะยานสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม

ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการขยายตัวเพิ่มขึ้นจาก 50.5 จุด ในเดือนพฤศจิกายน เป็น 51.4 จุด ในเดือนธันวาคม สูงสุดในรอบ 4 เดือน แต่ความเชื่อมั่นทางธุรกิจกลับลดลง จากความกังวลต่อการขาดแคลนแรงงานและต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นทำให้ราคาขายโดยเฉลี่ยเพิ่มมากสุดในรอบ 8 เดือน

ADVERTISMENT

โดยดัชนีรวม (Composite PMI) ที่รวมทั้งภาคผลิตและภาคบริการอยู่ที่ 50.8 จุด ในเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้นจาก 50.1 จุด ในเดือนพฤศจิกายน

แบบสำรวจรายไตรมาสของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เผยแพร่เมื่อวันที่ 13 ธันวาคมแสดงให้เห็นว่ายักษ์ใหญ่ภาคการผลิตของญี่ปุ่นมีความเชื่อมั่นมากขึ้น และความเชื่อมั่นของธุรกิจนอกภาคการผลิตยังคงเพิ่มขึ้นตลอดไตรมาสสุดท้ายของปี 2024

ADVERTISMENT

อย่างไรก็ตาม บริษัทต่าง ๆ ยังคงคาดว่าเงื่อนไขทางธุรกิจอีกสามเดือนข้างหน้าจะเลวร้ายลงกว่าเดิม เนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนตัวลงทั่วโลก และภัยคุกคามจากกำแพงการค้าของสหรัฐที่จะสูงขึ้น หลังโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนต่อไปของสหรัฐ