
คาซัคสถานยังยึดมั่นในแผนเพิ่มการผลิตน้ำมันขึ้นในปี 2025 ตามเดิม ส่อขัดแย้งกับกลุ่ม OPEC+ ที่ยืดระยะเวลาลดการผลิตน้ำมันออกไป
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา ออลจัส เบคเตนอฟ (Olzhas Bektenov) นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถานกล่าวในที่ประชุมรัฐสภา สั่งให้รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานเพิ่มจำนวนผลผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ โดยยึดปริมาณการผลิตน้ำมันในปี 2025 ตามแผนที่วางแผนไว้
เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คาซัคสถาน ประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดของเอเชียกลางตั้งเป้าการผลิตน้ำมันในปี 2025 ไว้ที่ 97.2 ล้านเมตริกตัน โดยหลังจากที่ตัวเลขดังกล่าวประกาศออกมา กลุ่ม OPEC+ ต้องปรับนโยบายขยายเวลาลดกำลังการผลิตออกไปให้นานกว่าเดิม
เพื่อดันราคาน้ำมันโลกให้สูงขึ้น กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันจึงตกลงที่จะเลื่อนเวลาลดกำลังการผลิตออกไปอีกจนถึงเดือนเมษายน 2025 และจะค่อย ๆ ปรับเพิ่มการผลิตทีละเดือน ซึ่งทำให้กว่าจะกลับมาผลิตเต็มกำลังได้อีกครั้ง ต้องช้ากว่ากำหนดการเดิมถึง 1 ปี
คาซัคสถานตกอยู่ภายใต้แรงกดดันของรัสเซียและซาอุดีอาระเบีย ประเทศผู้นำกลุ่ม OPEC+ จากความล้มเหลวในการดำเนินการปรับลดการผลิตน้ำมันตามที่รับปากไว้ ทั้งยังขาดการควบคุมเพิ่มเติมเพื่อชดเชยการผลิตที่เกินมาอีกด้วย
ด้วยเม็ดเงินลงทุนพัฒนาบ่อขุดน้ำมันเทงกิซ (Tengiz) กว่า 48,500 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.65 ล้านล้านบาท) ของเชฟรอน คอร์ป. (Chevron Corp.) ทำให้รัฐบาลคาซัคสถานสามารถผลิตน้ำมันได้มากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเริ่มทำการขุดเจาะในไตรมาสสองของปี 2025
ในปี 2025 แผนการผลิตน้ำมันของคาซัคสถานเพิ่มขึ้น 9.4 ล้านเมตริกตัน หรือประมาณ 190,000 บาร์เรลต่อวัน กระนั้น ตามข้อตกลงล่าสุดระหว่างกลุ่ม OPEC+ แล้ว คาซัคสถานไม่ควรเพิ่มการผลิตน้ำมันมากกว่า 41,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งตัวเลขจริงอาจจะน้อยกว่านี้เนื่องจากคาซัคสถานต้องชดเชยการผลิตที่เกินมาก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม แผนการผลิตน้ำมันของคาซัคสถานก็ไม่ได้บรรลุผลอย่างสมบูรณ์ อัลมัสซาดัม ซัตกาลีเยฟ (Almassadam Satkaliyev) รัฐมนตรีพลังงานคาซัคสถานกล่าวในที่ประชุมสภาว่า ปริมาณผลผลิตน้ำมันของคาซัคสถานในปี 2024 คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 87.8 ล้านเมตริกตัน ซึ่งลดลงจากระดับ 90.3 ล้านเมตริกตันที่วางแผนไว้ ขณะที่ปี 2023 กระทรวงเศรษฐกิจคาซัคสถานคาดว่าคาซัคสถานจะสามารถผลิตน้ำมันได้มากถึง 95.4 ล้านตันในปี 2024
ราคาน้ำมันดิบที่ลดต่ำลง สร้างแรงกดดันต่อเศรษฐกิจในประเทศ นูร์ลัน ไบบาซารอฟ (Nurlan Baibazarov) รองนายกของคาซัคสถานกล่าวไว้ในเดือนพฤศจิกายนว่า คาซัคสถานจะมีรายได้งบประมาณน้อยลง 2 ล้านล้านเทงกี (ราว 1.3 แสนล้านบาท) และจำเป็นต้องใช้เงินจากกองทุนน้ำมันแห่งชาติเพื่อถมช่องว่างดังกล่าว ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันต่อภาวะเงินเฟ้อมากขึ้น
ในเดือนตุลาคม กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ชี้ว่า คาซัคสถานจำเป็นต้องดำเนินการเสริมสร้างกรอบนโยบายการคลังอย่างเร่งด่วน