ความเห็นนักวิเคราะห์ หลังฮอนด้า-นิสสันจ่อควบรวมกิจการ

ซีอีโอนิสสันและซีอีโอฮอนด้าแถลงข่าวร่วมกันที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 15 มีนาคม 2024 ภาพโดย Reuters
ซีอีโอนิสสันและซีอีโอฮอนด้าแถลงข่าวร่วมกันที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 15 มีนาคม 2024 ภาพโดย Reuters

ความเห็นนักวิเคราะห์ หลังฮอนด้า มอเตอร์ (Honda Motor) และนิสสัน มอเตอร์ (Nissan Motor) ประกาศเตรียมเจรจาควบรวมกิจการ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรม โดยจะเป็นการดำเนินงานในรูปแบบโฮลดิ้ง (บริษัทที่ถือหุ้นในกิจการอื่นเป็นหลัก) ซึ่งจะมีการลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (MOU) เร็ว ๆ นี้

ก่อนหน้านี้ “ประชาชาติธุรกิจ” เคยรายงานการประกาศลดต้นทุนของนิสสัน มอเตอร์ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งนิสสันเตรียมเลิกจ้างพนักงาน 9,000 คน และจะลดกำลังการผลิตทั่วโลกลง 20% ทั้งยังปรับลดคาดการณ์ผลการดำเนินงานปีงบการเงินปัจจุบัน (เมษายน 2024 ถึงมีนาคม 2025) ลงราว 70% อีกด้วย 

ซึ่งการควบรวมดังกล่าว อาจช่วยพลิกฟื้นนิสสันจากวิกฤตการดำเนินงานในปัจจุบัน โดยรอยเตอร์ (Reuters) ได้รวบรวมความเห็นจากนักวิเคราะห์ ดังนี้  

ซันชิโร่ ฟุคาโอะ (Sanshiro Fukao) นักวิจัยบริหารจากสถาบันวิจัยอิโตชู (ITOCHU Research Institute) กล่าวว่า ดีลดังกล่าวถือเป็นการอุ้มนิสสัน อย่างไรก็ตาม ฮอนด้าเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับความสำเร็จในอดีต เนื่องจากกระแสเงินสด (cash flow) ของฮอนด้าเตรียมเสื่อมค่าลงในปี 2025 และรถยนต์ EV ของฮอนด้าก็ไม่ได้ทำรายได้มากเท่าที่ควร ฮอนด้าจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ซึ่งอาจต้องแยกธุรกิจมอเตอร์ไซค์ออกจากบริษัทแม่ และสร้างฐานการเงินที่แข็งแรงจากเครื่องยนต์ นับเป็นข้อดี หากการดำเนินงานในรูปแบบบริษัทโฮลดิ้ง จะทำให้ฮอนด้าเปลี่ยนแปลงบริษัทง่ายขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากทั้งสองบริษัทมองไม่เห็นวิธีแก้ปัญหาอื่นแล้วนอกจากต้องควบรวม ฟุคาโอะไม่คิดว่านิสสันและฮอนด้าจะสามารถเอาตัวรอดจากการแข่งขันค่ายรถจีนได้ เพราะในปัจจุบันค่ายรถยนต์ไม่สามารถอาศัยการประหยัดขนาด (economies of scale) จากการควบรวม และใช้เวลาสะสมกำไรอีก 5 ปีเพื่อปรับโครงสร้างการลงทุนใหม่ได้อีกแล้ว

ถัง จิน (Tang Jin) หัวหน้านักวิจัยอาวุโส จากธนาคารมิซูโฮะกล่าวว่า ฮอนด้ามีเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ดังนั้นจึงน่าจะมีการต่อต้านจากภายในองค์กรอยู่บ้าง หากต้องควบรวมกับคู่แข่งอย่างนิสสันที่มีเอกลักษณ์ทางเทคโนโลยีต่างออกไป

ADVERTISMENT

ฮอนด้าไม่ได้มีทรัพยากรสำหรับบริหารที่เหลือเฟือ เนื่องจากต้องเผชิญความท้าทายในการเปลี่ยนผ่านสู่เครื่องยนต์ไฟฟ้า ด้วยการผันเงินจากเครื่องยนต์ไฮบริดและมอเตอร์ไซค์ ขณะที่นิสสันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องควบรวม

อุตสาหกรรมรถยนต์กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หากฮอนด้าและนิสสันไม่สามารถตัดสินใจและดำเนินงานร่วมกันได้ดีพอ ทั้งสองอาจไม่สามารถตามการเปลี่ยนแปลงได้ทัน

ADVERTISMENT

เซอิจิ สุงิอุระ (Seiji Sugiura) นักวิเคราะห์อาวุโสจากโทไค โตเกียว อินเทลลิเจนซ์ แลบอราโทรี (Tokai Tokyo Intelligence Laboratory) ภายในองค์กรฮอนด้าไม่ได้มีความคิดเห็นต่อการควบรวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเท่าไรนัก เนื่องจากกิจการมอเตอร์ไซค์มีผลประกอบการที่ดี แม้รถยนต์จะมีอุปสรรคเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร

 ในระยะกลางถึงระยะยาว นับเป็นเรื่องดีต่ออุตสาหกรรมรถญี่ปุ่นที่จะมีคู่แข่งมาต่อกรกับโตโยต้า การแข่งขันอย่างสร้างสรรค์เป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมรถญี่ปุ่นที่ต้องแข่งขันกับค่ายรถจีนอื่น ๆ รวมถึงเทสลา