การขนสินค้าทางรถไฟรัสเซีย-จีนอืด แซงก์ชั่นซ้ำเติมสายทรานส์ไซบีเรีย

ภาพ Telegram. RZD

รัสเซียเผชิญอุปสรรคเพิ่มมากขึ้นในการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคไปจีนผ่านเครือข่ายรถไฟสายตะวันออก (Eastern Polygon) สัญญาณของความท้าทายทางเศรษฐกิจที่เพิ่มมากขึ้นที่มีสาเหตุมาจากสงครามในยูเครนและการแซงก์ชั่น แม้ว่ารัฐบาลรัสเซียรับรองว่าเศรษฐกิจเรียบร้อยดี

บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า เศรษฐกิจช่วงสงครามของรัสเซียทำให้การค้าทางรถไฟกับจีนล่าช้าลง บริษัทรถไฟบรรทุกสินค้าที่รัฐเป็นเจ้าของลดการลงทุน เนื่องจากต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้น ตลอดจนคนงานเหมืองถ่านหินและบริษัทรูซัล (Rusl) ซึ่งผลิตอะลูมิเนียมรายใหญ่ของโลกเผชิญอุปสรรคในการขนส่งไปยังภาคตะวันออก

สำนักข่าวทาสส์ (Tass) รายงานว่า นายโรมัน สตาโรวอต (Roman Starovoit) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า บริษัทการรถไฟรัสเซีย หรือ เจเอสซี รัสเชียน เรลเวย์ส (JSC Russian Railways) ซึ่งเป็นของรัฐรับผิดชอบการขนส่งทางรางทั้งหมดทั่วประเทศ ได้อนุมัติลดการลงทุน 30% ของโครงการลงทุนในปีหน้า

การเพิ่มขึ้นของสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสงครามยังทำให้เกิดปัญหาคอขวดที่มีอยู่เดิมซับซ้อนมากขึ้น ขณะที่การคว่ำบาตรส่งผลกระทบต่อการชำระเงินข้ามพรมแดน ปัจจัยเหล่านี้ร่วมกับปัญหาทางด้านโลจิสติกส์ที่มีมายาวนานทำให้การขนส่งสินค้า เช่น ถ่านหินและอะลูมิเนียมล่าช้าลง

เอ็มเอ็มไอ รีเสิร์ช (MMI Research) องค์กรวิจัยในกรุงมอสโกระบุว่า บริษัทรถไฟเจเอสซีกำลังประสบภาวะตกต่ำครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตในปี 2008-2009 และแนวโน้มภาวะตกต่ำนี้ยังคงรุนแรงต่อไป ซึ่งสันนิษฐานว่าเกิดจากทั้งความจำเป็นของกองทัพ ซึ่งขนส่งตู้สินค้าที่เกี่ยวข้องกับสงครามก่อนและปัญหาที่เลวร้ายลงจากขบวนรถไฟเองด้วย

เส้นทางรถไฟในตำนาน

สายรถไฟรัสเซียมีภาพที่ไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด บริษัทการรถไฟที่มักกู้ยืมจากตลาดสาธารณะเพื่อการลงทุนนั้น ขณะนี้ถูกปิดกั้นการกู้ยืมเกือบทั้งหมด เนื่องจากการแซงก์ชั่น ความช่วยเหลือของรัฐบาลก็ถูกจำกัด เนื่องจากรัฐบาลรัสเซียปรับงบประมาณใหม่โดยเน้นที่สงคราม

ADVERTISMENT

2-3 ปีมานี้รัสเซียเปลี่ยนไปค้าขายกับเอเชีย จึงต้องพึ่งพารถไฟสายอิสเทิร์น โพลีกอน (Eastern Polygon) ซึ่งประกอบขึ้นจากทางรถไฟที่ยาวที่สุด 2 สายของรัสเซียรวมกัน 14,000 กิโลเมตร ได้แก่ สายทรานส์ไซบีเรีย (Trans-Siberia) ในตำนาน ซึ่งเชื่อมกรุงมอสโกกับมหาสมุทรแปซิฟิก และสายไบคาลอามูร์เมนไลน์ (Baikal-Amur Mainline) จากไซบีเรียไปยังภูมิภาคตะวันออกไกล

เส้นทางรถไฟสายตะวันออกของรัสเซียได้กลายมาเป็นเส้นทางการค้าหลักของประเทศ

ADVERTISMENT

แต่เครือข่ายทางรางนี้ประสบปัญหาความล่าช้าในการขนถ่ายสินค้า และโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่มีประสิทธิภาพมาอย่างยาวนาน และตอนนี้ปัญหาดังกล่าวยิ่งรุนแรงมากขึ้น การเปลี่ยนมาใช้เส้นทางเอเชียทำให้ปริมาณการขนส่งทั้งไปและกลับจากรัสเซียเพิ่มขึ้น และความต้องการใช้รถไฟก็สูงเกินกว่าที่ระบบจะรองรับได้ แม้ว่าจะใช้งบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์ในการอัพเกรดแล้วก็ตาม

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ปูตินได้ระบุแผนการขยายขีดความสามารถในการขนส่งประจำปีของเส้นทางรถไฟสายตะวันออก

ตามรายงานของ MMI Research ระบุว่า ปริมาณการขนส่งสินค้าของทางรถไฟรัสเซียลดลง 5.2% จากมกราคมถึงเดือนพฤศจิกายนปี 2024 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

หนังสือพิมพ์กอมเมอร์ซานต์ (Kommersant) รายงานเมื่อเดือนก่อนหน้าว่า ปัจจุบันบริษัทรถไฟกำลังพิจารณาปรับลดการลงทุนทั้งหมดจนถึงปี 2030 ลง 1 ใน 3 เหลือ 7.9 ล้านล้านรูเบิล (ราว 2.6 ล้านล้านบาท) โดยเสริมว่ากระทรวงคมนาคมได้เสนอให้ปรับลดให้มากขึ้นอีก โดยให้ลดการใช้จ่ายสำหรับการขยายทางรถไฟสายตะวันออกลงเหลือประมาณ 15% ของที่เสนอลดไว้ในตอนแรกอีกต่างหาก

นอกจากนี้ แหล่งข่าวระบุว่า ยูไนเต็ด คอมปะนี รูซัล อินเตอร์เนชั่นแนล พีเจเอสซี (United Co. Rusal International PJSC) ซึ่งเป็นผู้ผลิตอะลูมิเนียมรายใหญ่ที่สุดนอกประเทศจีนมีสต๊อกอะลูมิเนียมหลายแสนตันที่โรงหลอมอะลูมิเนียมในไซบีเรีย เนื่องจากขีดความสามารถในการขนส่งของรถไฟที่มีจำกัด ทำให้ไม่สามารถขนส่งอะลูมิเนียมได้ทันเวลาตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้

ก่อนปี 2022 รูซัล ซึ่งไม่ได้ถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐและกลุ่มจี 7 (G7) ขายอะลูมิเนียมในจีนเป็นครั้งคราวเท่านั้น แต่หลังจากที่รัสเซียถูกคว่ำบาตรหลายครั้ง บริษัทจึงเปลี่ยนเส้นทางการส่งออกส่วนใหญ่จากยุโรปและตลาดอื่น ๆ ไปยังเอเชีย ปัจจุบันบริษัทรูซัลขายอะลูมิเนียมในจีนมากกว่าหนึ่งล้านตัน หรือราว 1 ใน 3 ของผลผลิตต่อปี