
อันวาร์ อิบราฮิม คะแนนนิยมดีขึ้น หลังมีผลงานผลักดันการลงทุน และปรับปรุงบริการภาครัฐ แต่ด้วยค่าครองชีพที่สูง ทำให้ประชาชนยังคงพะวงเรื่องเศรษฐกิจ
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า จากแบบสอบถามจัดทำโดยเมอร์เดก้า เซ็นเตอร์ (Merdeka Center) ซึ่งทำการสำรวจผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 1,200 คนระหว่างวันที่ 10 ตุลาคม ถึง 27 พฤศจิกายน พบว่า อันวาร์ อิบราฮิม (Anwar Ibrahim) นายกรัฐมนตรีมาเลเซียมีคะแนนนิยมดีขึ้นเป็น 54% ในปีที่สองของการดำรงตำแหน่ง หลังมีการผลักดันการลงทุนมากขึ้น
อันวาร์ อิบราฮิม ได้รับคะแนนนิยม 50% ในปีก่อน ซึ่งเป็นปีแรกที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนใหญ่ “ค่อนข้างพอใจ” กับผลงานของอันวาร์ โดยเฉพาะการดึงดูดการลงทุน รวมถึงปรับปรุงบริการภาครัฐ แต่ประชาชนยังคงเสียงแตกเมื่อถามถึงความพอใจด้านเศรษฐกิจ
โดยเมอร์เดก้า เซ็นเตอร์ระบุว่า ความกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพ และการลดเงินอุดหนุนลงในอนาคต ส่งผลต่อความพอใจด้านเศรษฐกิจ
65% ของผู้ตอบแบบสำรวจชี้ว่าภาวะทางเศรษฐกิจเป็นปัญหาอันดับหนึ่งของประเทศ ซึ่งเน้นย้ำว่า อันวาร์ต้องเร่งเพิ่มการเติบโตของค่าจ้าง ลดค่าครองชีพ และจัดการงบการคลังที่ขาดดุล