สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานว่า การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ชาติ หรือ จี 7 ซึ่งจัดขึ้นที่รัฐควิเบก ประเทศแคนาดา จบลงแบบไม่สวยเท่าไหร่ และยังสุ่มเสี่ยงต่อการที่จะเกิดสงครามการค้า หลังจากเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ประกาศจะไม่สนับสนุนแถลงการณ์ร่วมของผู้นำจี 7 เพราะไม่พอใจต่อแถลงการณ์ของนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา
ข่าวระบุว่า ทรัมป์ได้ทวีตข้อความขณะอยู่บนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน ขณะบินออกจากแคนาดา เพื่อมุ่งหน้าไปยังประเทศสิงคโปร์ เพื่อเตรียมการสำหรับการพบกันระหว่างทรัมป์ กับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่จะมีขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ ในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ โดยทรัมป์ทวีตระบุว่า ตามแถลงการณ์ที่ผิดพลาดในการแถลงข่าวของนายจัสติน ความจริงคือแคนาดาเองตั้งกำแพงภาษีไว้สูงมากสำหรับเกษตรกร คนงาน และบริษัทต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา และตนได้แจ้งไปยังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐแล้วว่า อย่าให้การสนับสนุนต่อแถลงการณ์ของจี 7 และกำลังพิจารณาในเรื่องภาษีสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ที่มีต่อตลาดในสหรัฐอเมริกา
ทรัมป์ยังทวีตข้อความต่อด้วยว่า การที่นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา ทำตัวนอบน้อม และอบอุ่น ในช่วงการประชุมจี 7 แล้วไปแถลงข่าวหลังจากที่ตนเดินทางออกไปแล้ว บอกว่า “จะไม่ยอมถูกข่มขู่” ถือเป็นเรื่องที่ไม่ซื่อสัตย์ และอ่อนแอ
ทั้งนี้ ก่อนหน้าการทวีตของทรัมป์ ทรูโด ได้แถลงข่าวระบุว่า การที่ทรัมป์ตัดสินใจนำเรื่องความมั่นคงของชาติมาตัดสินเรื่องการตั้งกำแพงภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม ถือเป็นการกระทำที่ดูแคลนต่อแคนาดาซึ่งยืนเคียงข้างสหรัฐอเมริกามาตลอดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นต้นมา และว่าแคนาดามีความสุภาพ มีเหตุผล แต่จะไม่ยอมถูกข่มขู่
ที่มา มติชนออนไลน์