โตโยต้าตั้งโรงงานผลิต Lexus EV ในจีน รองรับยอดขายโตสวนทางรถญี่ปุ่น

รถยนต์ Lexus LF-CC จัดแสดงในงาน Shanghai auto show 2021
รถยนต์ Lexus LF-CC จัดแสดงในงาน Shanghai auto show 2021 (ภาพโดย PETER PARKS / AFP)

โตโยต้า มอเตอร์ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่สัญชาติญี่ปุ่นเตรียมสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ที่ดำเนินการเอง (ไม่มีบริษัทจีนร่วมทุน) แห่งแรกในประเทศจีน ใช้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเลกซัส (Lexus) ซึ่งทำยอดขายได้ดีในจีน ยอดขายโตสวนทางรถญี่ปุ่น 

นิกเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) รายงานในวันที่ 24 ธันวาคม 2024 ว่า โตโยต้า มอเตอร์ (Toyota Motor) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่สัญชาติญี่ปุ่นเตรียมสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ที่ดำเนินการเอง (ไม่มีบริษัทจีนร่วมทุน) แห่งแรกในประเทศจีน และเตรียมผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเล็กซัส (Lexus) รถยนต์สุดหรูในเครือโตโยต้าที่โรงงานใหม่นี้ ซึ่งการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นนี้ ก็เพื่อที่จะควบคุมธุรกิจของบริษัทของตนเองในประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

แหล่งข่าวของนิกเคอิซึ่งมีความใกล้ชิดกับเรื่องนี้กล่าวว่า โตโยต้า มอเตอร์ มุ่งหวังที่จะเปิดโรงงานดังกล่าวที่มหานครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ในราว ๆ ปี 2027 โดยหลัก ๆ โรงงานแห่งใหม่นี้จะผลิตรถยนต์เลกซัสสำหรับขายในตลาดจีน ซึ่งยอดขายของแบรนด์เลกซัสในประเทศจีนอยู่ที่ประมาณ 180,000 คันในปี 2023 

ความเคลื่อนไหวนี้ของโตโยต้าซึ่งเกิดขึ้นในขณะนี้ บริษัทรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นรายอื่น ๆ ได้ลดการผลิตในประเทศจีนลง เป็นเหมือนการแยกทางออกจากการร่วมทุนของโตโยต้ากับบริษัทจีน ซึ่งเดิมทีโรงงานผลิตของค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นในประเทศจีนจะต้องมีบริษัทจีนร่วมทุน ตามที่กฎหมายของจีนกำหนดไว้ในอดีต  

บริษัทโตโยต้าได้ผลิตรถยนต์ในประเทศจีนผ่านบริษัทร่วมทุน 2 บริษัท คือ เอฟเอดับเบิลยู โตโยต้า (FAW Toyata) ซึ่งร่วมทุนกับเอฟเอดับเบิลยู กรุ๊ป (FAW Group) และ จีเอซี โตโยต้า (GAC Toyato) ร่วมทุนกับจีเอซี กรุ๊ป (Guangzhou Automobile Group : GAC Group) ซึ่งทั้งสองบริษัทผลิตรถยนต์ได้รวมกันประมาณ 1.75 ล้านคัน ในปี 2023 แต่รถยนต์เลกซัสที่ขายในประเทศจีนส่วนใหญ่นั้นถูกส่งออกจากประเทศญี่ปุ่นเป็นหลัก กล่าวคือยังไม่มีการผลิตรถยนต์เลกซัสในประเทศจีน 

เมื่อปี 2018 ทางรัฐบาลจีนมีการผ่อนปรนกฎระเบียบต่าง ๆ เพื่อที่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าต่างชาติและรถยนต์พลังงานใหม่ประเภทอื่น ๆ สามารถเข้าสู่ตลาดจีนได้โดยใช้เงินลงทุนของตนเองได้ 100% ไม่ต้องร่วมทุนกับบริษัทจีนดังที่กำหนดไว้ในอดีต หลังทางการจีนผ่อนปรนกฎระเบียบ เทสลา (Tesla) บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติอเมริกันเป็นเจ้าแรกที่ตัดสินใจเข้าสู่ตลาดในปีนั้น โดยตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในเซี่ยงไฮ้  

ADVERTISMENT

ทั้งนี้ เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าเป็นที่นิยมแพร่หลายในประเทศจีนแล้ว ดังนั้น ประเทศจีนจึงมีห่วงโซ่อุปทานที่มั่นคงมีเสถียรภาพ 

สำหรับประเทศจีนแล้ว ความเคลื่อนไหวของโตโยต้าในการมุ่งผลิตรถยนต์เลกซัสที่มีมูลค่าสูงในประเทศจีน จะช่วยให้จีนรักษาการลงทุนจากต่างประเทศเอาไว้ได้ และเชื่อกันว่าโตโยต้าจะเป็นบริษัทรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นรายแรกที่สร้างโรงงานในประเทศจีนแบบดำเนินการเอง 100% 

ADVERTISMENT

ในเวลาเดียวกัน บริษัทรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นกำลังพยายามอย่างหนักในการแข่งขันสุดหินกับแบรนด์คู่แข่งที่แข็งแกร่งในประเทศจีน อย่างบริษัท บีวายดี (BYD) บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าเบอร์หนึ่งของจีน 

ยอดขายของฮอนด้า มอเตอร์ (Honda Motor) และนิสสัน มอเตอร์ (Nissan Motor) ในประเทศจีนร่วงลงมากกว่า 10% ในปี 2023 ขณะที่บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (Mitsubishi Motors) อีกหนึ่งบริษัทรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ประกาศถอนตัวจากการผลิตและขายรถยนต์ในประเทศจีนเมื่อเดือนตุลาคม 2023 ขณะเดียวกันนิสสันได้ลดกำลังลงผลิตลงราว 10% 

ยอดขายของโตโยต้าในประเทศจีนก็ลดลงเช่นกันกับค่ายรถยนต์ร่วมชาติ แต่ของโตโยต้าลดลงในสัดส่วนที่น้อยกว่าบริษัทอื่น โดยโตโยต้าขายรถยนต์ในประเทศจีนได้กว่า 1.9 ล้านคันในปี 2023 ซึ่งถือว่าลดลง 2% จากปีก่อนหน้า ส่วนแบรนด์เลกซัสถือว่ามีผลการดำเนินงานที่ค่อนข้างดี โดยยอดขายเพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อนหน้า  

เลกซัสมุ่งหวังที่จะให้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกมีสัดส่วน 100% ของยอดขายของแบรนด์ภายในปี 2035 กล่าวคือหวังจะยุติการผลิตและขายรถยนต์สันดาปทั้งหมดในปี 2035 และคาดว่าจะขายรถยนต์ไฟฟ้าได้ 1 ล้านคันภายในปี 2030 และตั้งเป้าว่าจะให้รถยนต์ที่ขายในตลาดจีน อเมริกาเหนือ และยุโรป เป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี 2030 

ในขณะที่บริษัทฮอนด้ากล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 23 ธันวาคมว่า บริษัทได้เริ่มการดำเนินการผลิตที่โรงงานรถยนต์ไฟฟ้าที่เมืองกว่างโจว เมืองใหญ่ที่สุดในทางตอนใต้ของประเทศจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทจีเอซี ฮอนด้า (GAC Honda) ที่ร่วมลงทุนกับบริษัทจีเอซี กรุ๊ป และเมื่อรวมกับโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่เมืองอู่ฮั่น เมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนกลางของจีน ที่ฮอนด้าเปิดโรงงานเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันบริษัทฮอนด้ามีกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจีนอยู่ที่ราว ๆ 240,000 คันต่อปี 

ในทางกลับกัน เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จีเอซี ฮอนด้า ได้ปิดโรงงานผลิตรถยนต์เครื่องยนต์เบนซิน ซึ่งมีกำลังการผลิตต่อปีอยู่ที่ 50,000 คัน 

อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวใหญ่ของค่ายรถญี่ปุ่นคือ ฮอนด้าและนิสสันเพิ่งแถลงข่าวเมื่อวันที่ 23 ธันวาคมว่า ทั้งสองบริษัทวางแผนที่จะควบรวมกิจการภายในเดือนสิงหาคม 2026 ด้วยความมุ่งหวังที่จะเร่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่การขายรถยนต์ไฟฟ้าให้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยมีมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (Mitsubishi Motors) เข้าร่วม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง