
ทีมงานเอเชียของทรัมป์เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้น โดยผู้ภักดีจะรับบทบาทสำคัญ แหล่งข่าวเผยว่า ไมเคิล จอร์จ ดีซอมบรี อดีตทูตสหรัฐประจำประเทศไทยจะดำรงตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศด้านกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก
นิกเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า ทีมงานเอเชียของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นแล้ว รวมถึงมีไมเคิล จอร์จ ดีซอมบรี อดีตทูตสหรัฐประจำประเทศไทยร่วมทีม โดยมีทั้งผู้บริจาค ทหารผ่านศึก และเจ้าหน้าที่รัฐสภา แต่ไม่มีนักการทูตอาชีพ โดยจะรับตำแหน่งสำคัญในกระทรวงการต่างประเทศ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (NSC)
แหล่งข่าวหลายรายระบุว่า ในจำนวนนี้รวมถึงไมเคิล จอร์จ ดีซอมบรี (Michael George DeSombre) อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทยและผู้บริจาคเงินรายใหญ่ให้พรรครีพับลิกันร่วมทีม ซึ่งคาดว่าจะดำรงตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก แทนที่แดเนียล คริเทนบริงค์ นักการทูตอาวุโส
ในสมัยแรก ทรัมป์แต่งตั้งดีซอมบรี ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยในระหว่างปี 2020-2021 ซึ่งเป็นการแต่งตั้งทางการเมือง มิใช่มาจากข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศหรือนักการทูตโดยอาชีพ เป็นทูตสหรัฐประจำประเทศไทยประเภทแต่งตั้งทางการเมืองคนแรกนับตั้งแต่ปี 1975 หรือในรอบกว่า 40 ปี
ดีซอมบรีเป็นนักกฎหมายธุรกิจที่มีชื่อเสียง ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการควบรวมกิจการ การซื้อกิจการ และการเจรจา เขาเป็นหุ้นส่วนที่สำนักงานกฎหมายซัลลิแวน แอนด์ ครอมเวลล์ แอลแอลพี (Sullivan & Cromwell LLP) ในปี 2004 โดยมีลูกค้า ได้แก่ โกลด์แมน แซกส์ (Goldman Sachs), แอนไฮเซอร์-บุช อินเบฟ (Anheuser-Busch InBev) และ บริษัทเครดิตสวิส (Credit Suisse)
ตามประวัติการศึกษาที่เผยแพร่โดยทำเนียบขาว ในปี 1990 ปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์เชิงปริมาณและปริญญาโทสาขาเอเชียตะวันออกจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และยังสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนสอนกฎหมายฮาร์วาร์ดด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งในปี 1995 และสามารถพูดภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่ว รวมถึงสนทนาภาษาญี่ปุ่นและเกาหลีได้
ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ดีซอมบรีเข้ามาในช่วงที่สหรัฐตัดสิทธิจีเอสพี (GSP) ไทย
สมัยเป็นทูต ดีซอมบรียังกล่าวว่า เขาจะสนับสนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศเป็นหลัก โดยเน้นที่การลงทุนของอเมริกาและโครงการโครงสร้างพื้นฐานและห่วงโซ่อุปทานของไทย
สำหรับผู้ที่ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ซึ่งคนไทยค่อนข้างรู้จัก คือ แดเนียล รัสเซล ซึ่งได้เยือนไทยในปี 2558 ในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และได้แสดงความกังวลถึงสถานการณ์การเมืองไทยในขณะนั้น ในการกล่าวปาฐกถาที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่งผลให้นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศในขณะนั้นแสดงความกังวลและผิดหวัง
นิกเคอิ เอเชียรายงานเพิ่มเติมว่า ไมเคิล ดีซอมบรี จะได้รับการสนับสนุนจากเควิน คิม อดีตเจ้าหน้าที่พรรครีพับลิกันในคณะกรรมาธิการกำลังทหารของวุฒิสภา ซึ่งจะดำรงตำแหน่งรองผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยอดีตเจ้าหน้าที่รัฐสภา 2 คน คือ วิลล์ กรีน และฮันต์ แวนเดอร์โทลล์ จะดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโส
สำหรับที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ คาดว่าอีวาน คานาปาธี อดีตทหารนาวิกโยธิน 26 ปี และอดีตผู้อำนวยการ NSC ประจำจีน ไต้หวัน และมองโกเลีย ในรัฐบาลทรัมป์ชุดแรก จะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการอาวุโสประจำเอเชีย โดยรวมตำแหน่งที่มิรา แรปป์-ฮูเปอร์ เคยดำรงตำแหน่งดูแลเอเชียตะวันออกและโอเชียเนีย และซาราห์ เบอราน เคยดำรงตำแหน่งดูแลจีนและไต้หวันด้วย
รายงานข่าวระบุด้วยว่า ลักษณะเฉพาะอย่างหนึ่งของทีมทรัมป์คือเจ้าหน้าที่ของ NSC จะมีจำนวนน้อยกว่ารัฐบาลชุดก่อน โดยหน่วยงานอินโด-แปซิฟิก ซึ่งขยายตัวขึ้นเป็นประมาณ 25 คน ภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน แต่สมัยทรัมป์คาดว่าจะมีจำนวนประมาณ 10 คน และจะไม่มีตำแหน่งเทียบเท่ากับตำแหน่งที่เคิร์ต แคมป์เบลล์ ที่เคยดำรงตำแหน่งผู้ประสานงานอินโด-แปซิฟิกคนแรกในช่วงต้นของรัฐบาลไบเดนด้วย