“วันแรก” ของรัฐบาลทรัมป์ 2 หลายสิ่งดูดีสำหรับ “จีน”

โดนัลด์ ทรัมป์
โดนัลด์ ทรัมป์ (ภาพโดย REUTERS/Carlos Barria)
คอลัมน์ : ชีพจรเศรษฐกิจโลก
ผู้เขียน : นงนุช สิงหเดชะ

ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับวันที่ทั่วโลกรอคอย นั่นก็คือวันที่ “โดนัลด์ ทรัมป์” ทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ในการกลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐสมัยที่ 2 เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2025 ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าความยิ่งใหญ่และอิทธิพลของผู้นำสหรัฐนั้น ถึงกับทำให้โลกแทบหยุดนิ่ง กิจกรรมต่าง ๆ แทบหยุดชะงัก โดยเฉพาะนักลงทุนที่ Wait and See

เหตุที่โลกแทบหยุดชะงัก ก็เพราะทรัมป์นั้นได้ชื่อว่า “คาดเดาไม่ได้ ไม่อยู่กับร่องกับรอย” แถมยังประกาศนโยบายล่วงหน้าเรื่องการจะเก็บภาษีสินค้าจากทุกประเทศ โดยเฉพาะการพุ่งเป้าเล่นงานจีน

ทว่าในสุนทรพจน์ที่ทรัมป์กล่าวในวันสาบานตน เนื้อหาสุนทรพจน์แทบไม่แตะจีนเลย เรียกได้ว่าท่าทีแทบจะตรงข้ามกับตอนที่หาเสียง แต่สุนทรพจน์กลับมุ่งเน้นโจมตีโจ ไบเดน จากเดโมแครต ผู้ที่กำลังจะอำลาตำแหน่ง ซึ่งให้เกียรติมาร่วมในพิธีสาบานตนของทรัมป์ตามประเพณี ซึ่งในพิธีนั้นมีอดีตประธานาธิบดีสหรัฐหลายคน ทั้งจากเดโมแครตและรีพับลิกันให้เกียรติมาร่วมพิธี

อดีตประธานาธิบดีจากฝั่งพรรคเดโมแครตต้องทนนั่งฟังทรัมป์กล่าวโจมตีอย่างไม่ให้เกียรติเป็นเวลานาน ในขณะที่ตัวทรัมป์และภริยาไม่ยอมมาร่วมพิธีสาบานตนของโจ ไบเดน ในสมัยที่แล้ว โดยอ้างว่าตัวเองถูกโกงเลือกตั้ง จึงทำให้หลายคนชี้ว่าสุนทรพจน์ของทรัมป์ในวันสาบานตนไม่ใช่สุนทรพจน์เพื่อสร้างความสมานฉันท์ในชาติ แต่คล้ายกับเวทีปราศรัยหาเสียงกับฐานเสียงของทรัมป์

ไม่เพียงสุนทรพจน์จะโจมตีโจ ไบเดน และเดโมแครต แต่ในวันเดียวกันนั้นทรัมป์ยังเซ็นเพิกถอนคำสั่งของโจ ไบเดน หลายสิบฉบับโชว์สื่ออีกด้วย ภาพที่ออกมาจึงถูกวิจารณ์ว่าเหมือนเป็นการแก้แค้นมากกว่าจะเล่นการเมืองแบบมีวุฒิภาวะ

ท่าทีอ่อนโยนต่อจีนของทรัมป์ในวันสาบานตน ทำให้ “ฟอร์จูน” สื่อของสหรัฐชี้ว่า คนที่ดีใจน่าจะเป็นประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เพราะท่าทีของทรัมป์ต่างจากสมัยแรกของเขาที่แสดงความเป็นปฏิปักษ์ต่อจีนอย่างมาก โดยกล่าวหาว่าเป็นต้นตอของโควิด-19 และยังต้องการจะแบน “TikTok” แต่ครั้งนี้ท่าทีกลับทิศ

ADVERTISMENT

ฟอร์จูนระบุว่ามีเหตุผล 3 อย่างที่จีนควรจะดีใจ

1.ทรัมป์กลับคำสั่งของโจ ไบเดน ที่ให้แบน TikTok มีผลตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2025 ต่อมาวันที่ 20 มกราคม หลังทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง เขาได้มีคำสั่งให้ยืดการแบนออกไป 75 วัน เพื่อให้เขามีเวลาคิดว่าจะเอาอย่างไรกับ TikTok จะให้ขายหรือแบน

ADVERTISMENT

ท่ามกลางกระแสข่าวว่าอาจจะต้องขายให้กับอีลอน มัสก์ เจ้าพ่อเทสลา ผู้สนับสนุนรายใหญ่ของทรัมป์ ที่กำลังจะเข้ามามีอิทธิพลในรัฐบาลทรัมป์ จนทำให้พรรคเดโมแครตขนานนามประชดประชันว่า President Musk

โจ ไบเดน สั่งแบนแอปพลิเคชั่นยอดนิยมดังกล่าวของจีน ก็เพื่อป้องกันไม่ให้จีนแอบเก็บข้อมูลจากคนอเมริกัน อีกทั้งเกรงว่าจะใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อสร้างความนิยมจีน ซึ่งทางกระทรวงกลาโหมสหรัฐได้ชี้ว่า TikTok สร้างความเสี่ยงต่อความมั่นคงของประเทศ ดังนั้น จึงถูกห้ามใช้ในกลุ่มบุคลากรทางทหารด้วย

2.ก่อนพิธีสาบานตนเพียง 2-3 วัน ทางประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้โทรศัพท์ไปหาว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งตามแถลงการณ์ของรัฐบาลจีน อ้างว่ามีการบรรลุฉันทามติเกี่ยวกับการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ-จีน และอ้างว่าภาคธุรกิจอเมริกันกล่าวว่าการโทรศัพท์ระหว่างสองผู้นำส่งสัญญาณบวกต่อโลกภายนอกและน่าตื่นเต้น

3.วันที่ 19 มกราคม ทรัมป์มอบหมายให้อีลอน มัสก์ เป็นตัวแทนไปพบปะกับ ฮั่น เจิ้ง รองประธานาธิบดีจีน ซึ่งเป็นตัวแทนประธานาธิบดีจีนมาร่วมในพิธีสาบานตนของทรัมป์ ซึ่งทั้งมัสก์และฮั่นเห็นพ้องต้องกันว่า จะเป็นผลดีถ้า “เทสลา” สร้างสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกว่าเดิมกับจีน

ฟอร์จูนตั้งข้อสังเกตว่า ที่เห็นได้ชัดเจนคือมัสก์ไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์อะไรจีนเลย จากปกติที่มัสก์มักจะวิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนเกี่ยวกับการเซ็นเซอร์สื่อในประเทศประชาธิปไตย อย่างเช่น บราซิล เยอรมนี และสหราชอาณาจักร แต่เขาแทบไม่เคยแตะจีนซึ่งเป็นประเทศเผด็จการที่เซ็นเซอร์ประชาชนเป็นปกติ

สาเหตุน่าจะเป็นเพราะโรงงานผลิตเทสลาใหญ่ที่สุดอยู่ในเซี่ยงไฮ้ของจีน