
CNN ปลดพนักงาน 200 คน พร้อมเตรียมงบฯลงทุน 70 ล้านเหรียญ ปรับกลยุทธ์ดิจิทัล รับทิศทางการรับรู้ข่าวสารของคนทั่วโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น (CNN) ได้ประกาศเมื่อวันที่ 23 มกราคมว่าจะปลดพนักงานราว 6% หรือราว 200 ตำแหน่ง โดยนายมาร์ก ทอมป์สัน ซีอีโอของซีเอ็นเอ็นระบุว่า ทางสำนักข่าวจะเปิดตัวบริการสตรีมมิ่งใหม่ เปลี่ยนออกแบบ Digital Footprint ของซีเอ็นเอ็นใหม่ มีบริการสมัครสมาชิกข่าวแบบใหม่ และปรับเปลี่ยนผังรายการ เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของผู้ชมในอเมริกาและทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม นายทอมป์สันระบุในข้อความที่ส่งให้แก่พนักงานว่าจะมีการเปิดรับตำแหน่งใหม่ ทำให้โดยรวมแล้วพนักงานของซีเอ็นเอ็นจะไม่ลดลงไปจากเดิมมากนักเมื่อเข้าสู่ช่วงสิ้นปี หลังเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว ซีเอ็นเอ็นได้ปลดพนักงาน 100 ตำแหน่ง หรือราว 3% ของพนักงานทั้งหมดเพื่อปรับเปลี่ยนการรวบรวมข่าวสารใหม่
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้แล้วว่าซีเอ็นเอ็นจะปลดพนักงานเพิ่ม เนื่องจากซีเอ็นเอ็นกำลังมีการปรับเปลี่ยนปฏิบัติการข่าวสารของตัวเองเพื่อมุ่งให้ความสำคัญไปที่การเติบโตทางดิจิทัล ขณะที่สำนักข่าวยักษ์ใหญ่เกือบทั้งหมดกำลังประสบปัญหายอดผู้ชมและรายได้ลดลง เนื่องจากผู้ชมย้ายไปรับข่าวสารจากอีกแพลตฟอร์ม
นายทอมป์สันกล่าวว่า “ความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เราประกาศในวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทิศทางการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของผู้ชมในอเมริกาและทั่วโลก เรามีเป้าหมายที่ชัดเจนเพียงหนึ่งเดียวคือ เปลี่ยนจุดเน้นของซีเอ็นเอ็นไปสู่แพลตฟอร์มและผลิตภัณฑ์ที่ผู้ชมกำลังเปลี่ยนไปรับชม และการทำเช่นนั้นจะทำให้ซีเอ็นเอ็นมีอนาคตที่มั่นคงในฐานะหนึ่งในองค์กรข่าวที่ใหญ่ที่สุดในโลก อเมริกาและโลกต้องการข่าวที่มีคุณภาพ มีความยุติธรรม และน่าเชื่อถือมากกว่าที่เคย กระบวนการเปลี่ยนแปลงนี้ที่ยากลำบาก และบางครั้งก็เจ็บปวดคือหนทางเดียวที่จะทำให้แน่ใจว่าเราจะทำเช่นนั้นได้”
บริษัทแม่ของซีเอ็นเอ็นอย่าง Warner Bros. Discovery จะลงทุนเงิน 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.35 พันล้านบาทในแผนทางดิจิทัลของซีเอ็นเอ็น แม้ว่าซีเอ็นเอ็นจะมีบริการสตรีมมิ่งอยู่แล้วอย่าง CNN Max ทอมป์สันกล่าวว่าทางซีเอ็นเอ็นมีแผนที่จะเปิดตัวบริการสตรีมมิ่งใหม่ แต่ยังไม่มีการประกาศว่าบริการสตรีมมิ่งใหม่นี้จะเป็นเกี่ยวกับอะไร
นอกจากนั้นจะมีการปรับเปลี่ยนผังรายการในสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นเช่นกัน โดยทอมป์สันเผยว่าจะช่วยนำพลังงานและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับซีเอ็นเอ็น แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นการลดต้นทุนในการผลิตเพื่อให้สอดคล้องไปกับสถานการณ์เศรษฐกิจในแพลตฟอร์มโทรทัศน์ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงผังรายการของซีเอ็นเอ็นจะเริ่มในเดือนมีนาคมนี้