ไทยก็ไม่ได้รับการยกเว้น? เมื่อสหรัฐสั่งระงับความช่วยเหลือต่างประเทศ

ภาพ รอยเตอร์

เมื่อวันศุกร์ที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐออกคำสั่งหยุดการดำเนินงานสำหรับความช่วยเหลือต่างประเทศที่มีอยู่ทั้งหมด และระงับความช่วยเหลือครั้งใหม่ลงชั่วคราว

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์สั่งระงับความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาแก่ต่างประเทศชั่วคราวเป็นเวลา 90 วัน  หรือเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังรับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา  โดยรอการทบทวนในด้านประสิทธิภาพและความสอดคล้องกับนโยบายต่างประเทศของตน แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบขอบเขตของคำสั่งดังกล่าว อ้างอิงตามรายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters)

ในหนังสือดังกล่าว ซึ่งจัดทำโดยสำนักงานความช่วยเหลือต่างประเทศของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐและได้รับการอนุมัติจากมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ ระบุว่าได้มีการยกเว้นสำหรับการจัดสรรเงินช่วยเหลือทางทหารสำหรับอิสราเอลและอียิปต์แล้ว โดยในรายงานดังกล่าวไม่มีการกล่าวถึงประเทศอื่นใดอีกที่ได้รับการยกเว้น รวมถึงไทย

ตามที่รอยเตอร์รายงาน หนังสือโทรเลขของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐยังระบุด้วยว่า จนถึงขณะนี้ รูบิโอได้อนุมัติการยกเว้นสำหรับ “การจัดหาเงินช่วยเหลือทางทหารสำหรับอิสราเอลและอียิปต์ และค่าใช้จ่ายด้านการบริหารจัดการ รวมถึงเงินเดือนบุคคลกร ซึ่งจำเป็นในการบริหารจัดการเงินช่วยเหลือทางทหารแก่ต่างประเทศ”

อิสราเอลได้รับเงินช่วยเหลือทางทหารจากสหรัฐประมาณ 3.3 พันล้านดอลลาร์ต่อปี (ราว 1.1 แสนล้านบาท) ในขณะที่อียิปต์ได้รับประมาณ 1.3 พันล้านดอลลาร์ (ราว 43,000 ล้านบาท)

ตามคำร้องขอต่อรัฐสภาจากฝ่ายบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน รัฐอื่นๆ ที่ระบุให้ได้รับเงินช่วยเหลือดังกล่าวในปี 2025 ได้แก่ ยูเครน จอร์เจีย เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย ไต้หวัน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย เวียดนาม จิบูตี โคลอมเบีย ปานามา เอกวาดอร์ อิสราเอล อียิปต์ และจอร์แดน

ADVERTISMENT

จากข้อมูลที่เผยแพร่บนเว็บไซต์สถานทูตไทยในกรุงวอชิงตัน ระบุว่าไทยเป็นพันธมิตรทางทหารที่เก่าแก่ในเอเชียของสหรัฐตั้งแต่การต่อต้านและปิดล้อมการแพร่ขยายลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุคสงครามเย็น รวมถึงการส่งทหารไปช่วยกองทัพสหรัฐร่วมรบในสงครามเกาหลี ตลอดจนการฝึกคอบร้าโกลด์ (Cobra Gold) ที่ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2499 (ปีค.ศ. 1956) จนปัจจุบัน

เมื่อวิเคราะห์ในส่วนประเทศที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องถูกระงับในขณะนี้ คือพันธมิตรสำคัญอย่างอิสราเอลที่ปฏิบัติการสู้รบในกาซา แม้ขณะนี้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงแล้ว แต่ก็เป็นเพียงชั่วคราว เพราะสถานการณ์ในตะวันออกกลางนั้นอ่อนไหวอย่างมาก และอียิปต์คือ ผู้ไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง

ADVERTISMENT

นอกจากนี้ ในภาพรวม การดำเนินการระงับความช่วยเหลือแก่ต่างประเทศมีความเสี่ยงที่จะตัดความช่วยเหลือที่ช่วยชีวิต เป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ เมื่อพิจารณาจากบทบาทสหรัฐที่เป็นผู้ให้ความช่วยเหลือรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยในปีงบประมาณ 2023 สหรัฐได้จ่ายเงินช่วยเหลือไปแล้ว 72,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.4 ล้านล้านบาท)

ยกเว้นอิสราเอลและอียิปต์ แต่ไม่ยกเว้นยูเครน รอยเตอร์ (Reuters) รายงานอีกว่า เจ้าหน้าที่หน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐ หรือ U.S. Agency for International Development (USAID) ซึ่งขอไม่เปิดเผยชื่อ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบโครงการในยูเครนได้รับคำสั่งให้หยุดดำเนินการทั้งหมด โดยโครงการที่ถูกระงับ ได้แก่ โครงการช่วยเหลือโรงเรียนและความช่วยเหลือด้านสุขภาพ เช่น การดูแลมารดาในกรณีฉุกเฉินและการฉีดวัคซีนสำหรับเด็ก

โดยรวมแล้ว การตัดสินใจว่าจะดำเนินการต่อ แก้ไข หรือยุติโครงการนั้น ๆ รูบิโอจะตัดสินใจภายหลังจากมีการตรวจสอบในช่วง 85 วันข้างหน้า และจนกว่าจะถึงเวลานั้น นายรูบิโอสามารถอนุมัติการยกเว้นในระหว่างนั้นได้

แหล่งข่าวในสภาคองเกรสที่ไม่ต้องการเปิดเผยชื่อโต้แย้งว่าคำสั่งของทรัมป์นั้นผิดกฎหมาย ซึ่งระบุว่า การระงับการบริจาคช่วยเหลือที่เป็น”การลงทุน” ระหว่างประเทศเหล่านี้จะทำให้พันธมิตรระหว่างประเทศสหรัฐหันไปหาพันธมิตรด้านเงินทุนรายอื่น ซึ่งน่าจะเป็นคู่แข่งและศัตรูของสหรัฐเพื่ออุดช่องโหว่นี้และแทนที่อิทธิพลของสหรัฐนานตราบเท่าที่คำสั่งที่ผิดกฎหมายนี้ดำเนินต่อไป