
บริษัทในภาคอุตสาหกรรมของจีนกำไรลดลงเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันในปี 2024 เนื่องจากต้องแข่งกันลดราคาเพื่อชิงลูกค้าในภาวะการจับจ่ายที่อ่อนแอท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานในวันที่ 27 มกราคม 2025 ว่า บริษัทในภาคอุตสาหกรรมของประเทศจีนมีกำไรลดลงในปี 2024 นับเป็นการลดลงปีที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นผลจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น (ทำให้ต้องลดราคาขาย) และแรงกดดันด้านภาวะเงินฝืดเนื่องจากอุปสงค์หรือความต้องการซื้อในประเทศอ่อนแอลง
สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (National Bureau of Statistics : NBS) ระบุในแถลงการณ์ที่ออกในวันจันทร์ที่ 27 มกราคม ว่า กำไรของบริษัทขนาดใหญ่ในภาคอุตสาหกรรมของจีนในภาพรวมของปี 2024 ลดลง 3.3% จากปีก่อนหน้า (YOY) โดยกำไรในเดือนธันวาคมเพียงเดือนเดียวเพิ่มขึ้น 11% (YOY) ช่วยหักกลบการขาดทุนของบริษัทต่าง ๆ ในปี 2024 ได้ แต่ภาพรวมกำไรทั้งปียังคงลดลงอีกปี
ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของภาคอุตสาหกรรมจีนลดลงเป็นเวลามากกว่า 2 ปีแล้ว และจบปี 2024 ด้วยการลดลง 2.2% (YOY)
ทั้งนี้ ฐานะการเงินของบริษัทต่าง ๆ ในจีนกำลังตึงเครียดมากขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจกำลังอยู่ในช่วงยากลำบากกับภาวะเงินฝืดเนื่องจากจีนต้องเผชิญกับการบริโภคและการลงทุนในประเทศที่อ่อนแอลง ซึ่งแรงกดดันด้านงบดุลของภาคธุรกิจอาจไม่สามารถคลี่คลายลงในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากประเทศจีนกำลังเผชิญกับการที่ราคาสินค้าลดลงเป็นปีที่สามติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นภาวะราคาหดที่เกิดขึ้นยาวนานที่สุดในรอบหลายสิบปี
ทั้งนี้ ผลกำไรของภาคอุตสาหกรรมถือเป็นเกณฑ์มาตรฐานสำคัญที่ใช้วัดสุขภาพทางการเงินของโรงงาน เหมืองแร่ และบริษัทเครื่องมือ-เครื่องจักรโรงงาน ซึ่งจะส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนของบริษัทในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
นอกจากนั้น ข้อมูลอีกชุดหนึ่งที่ทางการจีนเผยแพร่ในวันเดียวกันนี้เผยให้เห็นแนวโน้มในช่วงหลายเดือนข้างหน้าว่าเศรษฐกิจจีนจะยังคงไม่สดใส
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของจีน (Manufacturing PMI) ในเดือนมกราคม 2025 ซึ่งบ่งชี้แนวโน้มเศรษฐกิจในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า ลดลงจากเดือนธันวาคมซึ่งอยู่ที่ 50.2 จุด สู่ 49.1 จุด ซึ่งเป็นการร่วงลงสู่โซนหดตัวอีกครั้ง และเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2024 และต่ำกว่าคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดว่าจะอยู่ในโซนขยายตัวเล็กน้อย