
ผลการสำรวจเผยชาวกรีนแลนด์คัดค้านทรัมป์ด้วยคะแนนเสียงข้างมาก 85% ที่ไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐ
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า ชาวกรีนแลนด์คัดค้านอย่างล้นหลามที่จะออกจากเดนมาร์กเพื่อไปเข้าร่วมกับสหรัฐ ซึ่งนับเป็นความต้องการที่สวนทางกับการยืนกรานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ว่าเกาะแห่งนี้ต้องการเข้าร่วมกับสหรัฐ
ตามผลสำรวจของวีเรียน (Verian) ที่เผยแพร่เมื่อ 28 มกราคม เวลาท้องถิ่น ซึ่งได้รับมอบหมายจากหนังสือพิมพ์เบอร์ลิงสเก (Berlingske) ของเดนมาร์กและสิ่งพิมพ์เซอมิตเซียก (Sermitsiaq) ของกรีนแลนด์ แสดงให้เห็นว่าประชากร 85% ในกรีนแลนด์ที่ปกครองตนเองไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐ โดยประมาณ 6% กล่าวว่าพวกเขาต้องการเลือกสหรัฐมากกว่าเดนมาร์ก และ 9% ยังไม่ตัดสินใจ
การสำรวจความคิดเห็นดังกล่าวมาจากการสัมภาษณ์ทางอินเทอร์เน็ต 497 คน ระหว่างวันที่ 22-26 มกราคม 2025 ซึ่งรวมถึงกลุ่มตัวอย่างที่เป็นตัวแทนของพลเมืองกรีนแลนด์ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ ผลโพลมีค่าความคลาดเคลื่อนทางสถิติอยู่ที่ประมาณ 3.1%
ผลสำรวจยังแสดงให้เห็นว่าชาวกรีนแลนด์ 45% มองว่าความสนใจของทรัมป์ที่มีต่อกรีนแลนด์เป็นภัยคุกคาม และมีเพียงประมาณ 8% เท่านั้นที่ยินดีจะถือหนังสือเดินทางสหรัฐ หากต้องเลือกระหว่างสัญชาติเดนมาร์กหรือสหรัฐ ในทันทีทันใด
ทรัมป์ยืนยันว่าตนเองต้องการครอบครองเกาะที่ใหญ่ที่สุดแห่งนี้ ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงและไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะใช้กำลังเพื่อให้ได้มา ทรัมป์ยังแย้งด้วยว่าประชาชนกรีนแลนด์ต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐมากกว่า ซึ่งความสนใจในเกาะอาร์กติกแห่งนี้เริ่มมาตั้งแต่สมัยแรกที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ
“ประชาชนกรีนแลนด์ไม่มีความสุขกับการอยู่กับเดนมาร์ก” ทรัมป์กล่าวเมื่อ 21 มกราคมที่ผ่านมา และกล่าวอีกว่า “คุณก็รู้ ผมคิดว่าพวกเขามีความสุขกับการอยู่กับสหรัฐ”
นายมูเต บี. เอเกเด นายกรัฐมนตรีกรีนแลนด์ ไม่เห็นด้วยกับมุมมองดังกล่าว โดยหลายคนสนับสนุนให้เกาะแห่งนี้เป็นเอกราช แม้ว่าเกาะแห่งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของเดนมาร์ก แต่ประชากร 57,000 คนของเกาะนี้ก็มีการปกครองตนเองอย่างกว้างขวาง
“เราไม่อยากเป็นชาวเดนมาร์ก เราไม่อยากเป็นชาวอเมริกัน แน่นอนว่าเราอยากเป็นชาวกรีนแลนด์” นายกรัฐมนตรีของกรีนแลนด์ นายมูเต บี. เอเกเด กล่าวเมื่อไม่นานนี้
ขณะเดียวกัน เดนมาร์กกำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรับมือกับความขัดแย้งกับทรัมป์ เมตเต เฟรเดอริกเซน นายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก ได้พยายามรวบรวมการสนับสนุนจากพันธมิตรในยุโรป ด้วยการเยือนกรุงปารีส และเบอร์ลินอย่างรวดเร็ว เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นหนึ่งเดียวกัน ในขณะที่ก็หลีกเลี่ยงการสร้างความขัดแย้งกับประธานาธิบดีสหรัฐ
ลาร์ส ล็อกเก้ ราสมุสเซน รัฐมนตรีต่างประเทศของเดนมาร์ก กล่าวกับสื่อท้องถิ่นในกรุงโคเปนเฮเกนว่า ทรัมป์ไม่ควรได้กรีนแลนด์ กรีนแลนด์ก็คือกรีนแลนด์ ชาวกรีนแลนด์ก็เป็นคนในความหมายของกฎหมายระหว่างประเทศเช่นกัน และท้ายที่สุดแล้ว ชาวกรีนแลนด์ก็คือคนที่กำหนดอนาคตของตัวเอง