
สื่อรายงานอ้างแหล่งข่าวเปิดเผยว่า ไมโครซอฟท์ พันธมิตรโอเพ่นเอไอ ซึ่งเป็นผู้พัฒนา ChatGPT เปิดการสอบสวนในประเด็นกลุ่มที่มีความเกี่ยวข้องกับดีปซีก ได้รับข้อมูลของโอเพ่นเอไอมาอย่างไม่ถูกต้องหรือไม่
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า บริษัทไมโครซอฟท์ (Microsoft) และโอเพ่นเอไอ (OpenAI) ผู้พัฒนา ChatGPT กำลังสอบสวนว่ากลุ่มที่เชื่อมโยงกับดีปซีก (DeepSeek) สตาร์อัพผู้พัฒนาแอปพลิเคชั่น AI ของจีน ได้รับข้อมูลของโอเพ่นเอไอ มาอย่างไม่ถูกต้องหรือไม่ โดยแนวทางสอบสวนมุ่งข้อมูลจากโอเพ่นเอไอที่ถูกกลุ่มเชื่อมโยงกับดีปซีกได้มาโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือแอบดึงไปใช้ หรือไม่
แหล่งข่าวดังกล่าวขอไม่เปิดเผยชื่อเนื่องจากเรื่องนี้เป็นความลับระบุว่า นักวิจัยด้านความปลอดภัยของไมโครซอฟท์ สังเกตเห็นบุคคลที่พวกเขาเชื่อว่าอาจเชื่อมโยงกับดีปซีกที่ขโมยข้อมูลจำนวนมากโดยใช้อินเตอร์เฟซการเขียนโปรแกรมแอปพลิเคชั่น หรือ API ของโอเพ่นเอไอ เมื่อฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถจ่ายเงินเพื่อขอใบอนุญาตใช้ API เพื่อรวมโมเดลปัญญาประดิษฐ์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของโอเพ่นเอไอเข้ากับแอปพลิเคชั่นของตนเองได้
ไมโครซอฟท์ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนด้านเทคโนโลยีของโอเพ่นเอไอและเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุด ได้แจ้งให้โอเพ่นเอไอทราบถึงกิจกรรมดังกล่าว ซึ่งกิจกรรมที่ว่านี้อาจละเมิดข้อกำหนดในการให้บริการของโอเพ่นเอไอ หรืออาจบ่งชี้ได้ว่ากลุ่มดังกล่าวได้กระทำการเพื่อลบข้อจำกัดของโอเพ่นเอไอเกี่ยวกับปริมาณข้อมูลที่กลุ่มที่ถูกกล่าวหา สามารถรับได้
เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ดีปซีกได้เปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์โอเพ่นซอร์ซใหม่ ที่เรียกว่า DeepSeek R1 ซึ่งสามารถเลียนแบบการใช้เหตุผลของมนุษย์ได้ พลิกโฉมตลาดที่ถูกครอบงำโดย โอเพ่นเอไอ และคู่แข่งจากสหรัฐ เช่น กูเกิล (Google) และเมตา แพลตฟอร์ม (Meta Platforms Inc.)
บริษัทน้องใหม่จากจีนรายนี้กล่าวว่า โมเดล DeepSeek R1 สามารถแข่งขันหรือทำผลงานได้ดีกว่าสินค้าของนักพัฒนาชั้นนำจากสหรัฐในแง่เกณฑ์มาตรฐานอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงสำหรับงานคณิตศาสตร์และความรู้ทั่วไป อีกทั้งถูกสร้างขึ้นด้วยต้นทุนเพียงเศษเสี้ยวเดียว เมื่อเทียบกับปริมาณเงินที่บริษัทเทคโนโลยีเอไอสหรัฐทุ่มเงินพัฒนาโมเดลมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
กลายเป็นภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นต่อความได้เปรียบของบริษัทสหรัฐในอุตสาหกรรม AI ส่งผลให้หุ้นเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงกับ AI รวมถึงไมโครซอฟท์, เอ็นวิเดีย, ออราเคิล และอัลฟาเบท บริษัทแม่ของกูเกิลร่วงลงในวันจันทร์ที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา ส่งผลให้มูลค่าตลาดลดลงรวมกันเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 33.7 ล้านล้านบาท)
ในการสัมภาษณ์ของฟ็อกซ์ นิวส์ (Fox News) เดวิด แซกส์ ซาร์ด้านปัญญาประดิษฐ์และคริปโต (White House A.I. & Crypto Czar) ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐกล่าวเมื่อวาน (28 มกราคม) เวลาท้องถิ่นว่า มีหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ว่า ดีปซีกพึ่งพาผลลัพธ์ของโมเดลโอเพ่นเอไอเพื่อช่วยพัฒนาเทคโนโลยีตนเอง นายแซกส์ได้บรรยายเทคนิคที่เรียกว่าการกลั่นหรือการสกัด ซึ่งกล่าวคือโมเดล AI หนึ่งใช้ผลลัพธ์จากอีกโมเดลหนึ่งเพื่อจุดประสงค์ในการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาความสามารถหลาย ๆ อย่างที่คล้ายคลึงกัน
ต่อมาโฆษกโอเพ่นเอไอกล่าวในคำชี้แจงโดยอ้างถึงประเทศจีนว่า เรารู้ว่าบริษัทต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ในจีนและบริษัทอื่น ๆ พยายามสกัดโมเดลของบริษัท AI ชั้นนำของสหรัฐอยู่เสมอ ซึ่งในฐานะผู้สร้าง AI ชั้นนำ เราใช้มาตรการตอบโต้เพื่อปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของเรา รวมถึงกระบวนการที่รอบคอบระมัดระวังสำหรับขีดความสามารถที่ถือเป็นด่านหน้าในโมเดลที่เผยแพร่ออกไป
โฆษกโอเพ่นเอไอระบุอีกว่า เราเชื่อว่าเมื่อเราก้าวไปข้างหน้า สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือเราต้องทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลสหรัฐเพื่อปกป้องโมเดลจนสุดความสามารถจากความพยายามของฝ่ายตรงข้ามและคู่แข่งในการแย่งชิงเทคโนโลยีของสหรัฐ