
ทัศนะของเรย์ ดาลิโอ ผู้ก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ระดับโลกต่อสถานการณ์ตลาดหุ้นและเทคโนโลยีเอไอ
เป็นคำถามที่น่าสนใจว่า ฟองสบู่เอไอ (AI Bubble) ใกล้จะแตกแล้วหรือยัง หลังตลาดหุ้นสหรัฐมีผลงานที่แข็งแกร่งอย่างมากตลอดปีปฏิทิน 2024 ที่ผ่านมา ดัชนีเอสแอนด์พี 500 (S&P 500) เติบโตเกิน 20% สองปีติดกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1997 และ 1998 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนวิกฤตฟองสบู่ดอตคอม (Dot-Com Bubble Crisis) เพียงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์โตขึ้น 12.88% และดัชนีแนสแดคซึ่งเป็นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทะยานถึง 28.64% ในปีที่ผ่านมา
ด้าน เรย์ ดาลิโอ (Ray Dalio) ผู้เชี่ยวชาญการลงทุน และผู้ก่อตั้งบริดจ์วอเตอร์ส (Bridgewater Associates) บริษัทกองทุนเฮดจ์ฟันด์ยักษ์ใหญ่ ได้เผยมุมมองกับทางไฟแนนเชียล ไทมส์ (Financial Times) เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2025 ที่ผ่านมาว่า ตลาดหุ้นสหรัฐอาจกำลังร้อนแรงเกินไป เนื่องจากนักลงทุนตื่นตัวกับกระแสเอไอ (AI) อย่างมาก จนเสี่ยงต่อการเกิดภาวะฟองสบู่ เช่นเดียวกับวิกฤตฟองสบู่ดอตคอมที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อต้นยุค 2000
ทั้งนี้ ‘ประชาชาติธุรกิจ’ รวบรวมข้อสังเกตทั้ง 5 ข้อของเรย์ ดาลิโอต่อสัญญาณเตือนฟองสบู่มาให้แล้ว ดังต่อไปนี้
1.สัญญาณฟองสบู่เหมือนวิกฤตดอตคอม
เรย์ ดาลิโอกล่าวว่า สถานการณ์ของตลาดในปัจจุบันคล้ายคลึงกับตลาดช่วงปี 1997 และปี 1998 อย่างมาก ซึ่งขณะนั้นมีการปรากฏตัวของเทคโนโลยีที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ นั่นคือ อินเทอร์เน็ต
ด้วยกระแสเห่อเทคโนโลยีใหม่ นักลงทุนต่างพากันลงหุ้นในบริษัทที่มีชื่อลงท้ายว่าดอตคอม และดอตเน็ต (Dot Net) กันอย่างไม่ลืมหูลืมตา จนดันให้ดัชนีแนสแดค 100 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในปี 1999 ซึ่งปัจจุบัน ดัชนีแนสแดค 100 เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าแล้วเช่นกัน เมื่อนับตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นมา
2.ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย
เรย์ ดาลิโอชี้ว่า ด้วยราคาหุ้นที่อยู่ในระดับสูง ท่ามกลางความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยซึ่งสามารถชะลอหรือเร่งให้ฟองสบู่แตกได้ จากสัญญาณล่าสุดที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชี้ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยน้อยลงในปี 2025 หลังเศรษฐกิจแสดงตัวเลขเติบโตแข็งแกร่ง และมีเงินเฟ้อทรงตัวสูงกว่าเป้าหมาย 2%
ขณะที่ รายงานการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรือดอตพลอต (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงให้เห็นว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้ง จากที่เคยคาดว่าจะลด 4 ครั้ง
ซึ่งดาลิโอกังวลว่า หากอัตราดอกเบี้ยยังคงสูงอยู่ต่อไป อาจทำให้เกิดภาวะฟองสบู่แตกได้ จากการลงทุนและการเก็งกำไรอย่างบ้าคลั่งที่ชะลอตัวลง
3.เทคโนโลยีใหม่ ไม่ใช่ผลกำไร
เรย์ ดาลิโอ ย้ำว่าเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกไม่ได้ทำให้การลงทุนมีกำไรเสมอไป แน่นอนว่าเทคโนโลยีใหม่ ๆ จะประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงโลก แต่นักลงทุนจะไม่ได้ประสบความสำเร็จตามไปด้วยเสมอไป ซึ่งผู้คนยังคงสับสนและไม่เข้าใจประเด็นตรงนี้
4.อำนาจสำคัญกว่ากำไร
เรย์ ดาลิโอมองว่าชัยชนะในสงครามด้านเทคโนโลยี (Tech War) ระหว่างสหรัฐและจีน สำคัญกว่าการทำกำไรเสียอีก เพราะไม่เพียงแค่สหรัฐจะมีอำนาจเศรษฐกิจที่ดีกว่า แต่ยังมีอำนาจทางการทหารที่เหนือกว่าด้วย ดังนั้น ผู้ที่พยายามทำกำไรเพียงอย่างเดียว จะไม่มีวันชนะในสงครามนี้ได้เลย
5.ภาครัฐจำเป็นต้องแทรกแซง
ดาลิโอยอมรับว่าภาครัฐมีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาเอไอ และจำเป็นต้องมีการแทรกแซงทางนโยบายเพื่อช่วยภาคเอกชน ดาลิโอกล่าวว่า ในระบบทุนนิยม ด้วยการแสวงหาผลกำไรเพียงอย่างเดียว ไม่เพียงพอต่อการคว้าชัยในการแข่งขันชิงความเป็นมหาอำนาจ