
เศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 4 ปี 2024 และภาพรวมทั้งปี 2024 โตในอัตราที่ชะลอลงเล็กน้อย แต่การจับจ่ายของผู้บริโภคยังแกร่ง หนุนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยต่อตามที่ส่งสัญญาณไว้
สำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยแพร่ประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐไตรมาส 4 และทั้งปี 2024 ครั้งที่ 1 ในวันที่ 30 มกราคม 2025 ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศที่แท้จริง (Real GDP-ปรับผลของอัตราเงินเฟ้อออกแล้ว) ในไตรมาส 4 ปี 2024 ขยายตัว 2.3% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (YOY) แต่ชะลอตัวลงจากไตรมาส 3 ที่เติบโต 3.1% (YOY)
สำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจระบุว่า การเพิ่มขึ้นของจีดีพีในไตรมาส 4 เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นหลัก
ทั้งนี้ ตัวเลขจีดีพีจากประมาณการของสำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ต่ำกว่าประมาณการของนักเศรษฐศาสตร์ของบลูมเบิร์ก (Bloomberg) และนักเศรษฐศาสตร์ที่ตอบแบบสำรวจของรอยเตอร์ (Reuters) ซึ่งประมาณการอัตราการเติบโตไว้ที่ 2.6%
ส่วนภาพรวมทั้งปี 2024 จีดีพีที่แท้จริงเพิ่มขึ้น 2.8% จากปีก่อนหน้า (YOY) ชะลอลงจากปี 2023 ที่เติบโต 2.9% (YOY)
ทั้งนี้ สำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจระบุว่า การเติบโตของจีดีพีในปี 2024 สะท้อนถึงการเพิ่มขึ้นของการใช้จ่ายของผู้บริโภค การลงทุน การใช้จ่ายของรัฐบาล และการส่งออก
แม้ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะชะลอตัวลง แต่อุปสงค์และการบริโภคที่แข็งแกร่ง เป็นตัวเลขที่สนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด (Federal Reserve System) สามารถชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อไปได้ในปี 2025 นี้ ดังที่ได้ส่งสัญญาณไว้เมื่อวันที่ 29 มกราคมว่าจะยังไม่รีบลดอัตราดอกเบี้ย
เจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐได้ส่งสัญญาณในการแถลงผลการประชุมว่า ธนาคารกลางสหรัฐตั้งใจที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมต่อไปอีกในอนาคตอันใกล้ โดยชี้ให้เห็นถึงเหตุผลหลายประการที่ FOMC คาดว่าจำเป็นจะต้องใช้เวลาพอสมควรในการลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้ง
เหตุผลหลักประการหนึ่งคือ ความไม่แน่นอนว่านโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะถูกใช้อย่างไร และอาจส่งผลเปลี่ยนแปลงคาดการณ์เศรษฐกิจของ FOMC หรือไม่ อย่างไร
“เราต้องรอให้มีการกำหนดนโยบายเหล่านั้นอย่างชัดเจนก่อน เราจึงจะเริ่มการประเมินอย่างสมเหตุสมผล ว่านโยบายเหล่านั้นจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างไร” พาวเวลล์กล่าวกับนักข่าว