
ข้อมูลเผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ 5 ก.พ. 2025 เวลา 08.32 น. และอัพเดตเมื่อเวลา 14.40 น.
สื่อญี่ปุ่นรายงานอ้างแหล่งข่าวระบุว่า นิสสันยกเลิกการเจรจาควบรวมกิจการกับฮอนด้า และคัดค้านข้อเสนอที่ต้องการให้นิสสันเป็นบริษัทลูกด้วย
รอยเตอร์ (Reuters) รายงานอ้างอิงหนังสือพิมพ์นิกเคอิ (Nikkei) ว่า นิสสัน (Nisson) ยกเลิกการเจรจาควบรวมกิจการกับคู่แข่งอย่างฮอนด้า (Honda) โดยยกเลิกความร่วมมือที่อาจทำให้ฮอนด้ากลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 3 ของโลก และทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความสามารถในการฝ่าวิกฤตด้วยตัวเองของนิสสัน ตามมา
นิกเคอิได้รับรายงานว่า นิสสันระงับการเจรจาควบรวมกิจการกับฮอนด้า เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นทั้งสองรายไม่สามารถบรรลุฉันทามติเกี่ยวกับเงื่อนไขของข้อตกลงได้ โดยนิสสันจะถอนตัวจากบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับการเจรจาการควบรวมกิจการ (MOU) ซึ่งลงนามเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากทั้งสองบริษัทไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการประเมินมูลค่าของแต่ละฝ่ายภายใต้บริษัทโฮลดิ้ง (Holding Company) นอกจากนี้ นิสสันยังปฏิเสธข้อเสนอของฮอนด้าที่จะให้ฮอนด้าเป็นบริษัทลูก (Subsidiary) อีกด้วย
แหล่งข่าวกล่าวว่า การเสนอให้นิสสันเป็นบริษัทในเครือถือเป็นการละเมิดจิตวิญญาณของการหารือตามกรอบบันทึกความเข้าใจ (MOU) ที่ระบุไว้ว่าเป็นการควบรวมกิจการในรูปแบบของบริษัทที่เท่าเทียมกัน
โฆษกนิสสันกล่าวว่ารายงานข่าวของนิกเคอิไม่ได้อิงตามข้อมูลที่นิสสันประกาศ เและว่าบริษัทมุ่งหวังที่จะสรุปทิศทางภายในกลางเดือนกุมภาพันธ์และจะประกาศให้ทราบในตอนนั้น
โฆษกฮอนด้ากล่าวว่าบริษัทไม่ได้รับข้อมูลใดๆ จากนิสสันเกี่ยวกับการตัดสินใจถอนตัวจากบันทึกความเข้าใจเพื่อร่วมมือกัน (MOU)
ทั้งนี้ ในตอนแรก บริษัททั้งสองวางแผนที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับทิศทางของการควบรวมกิจการภายในสิ้นเดือนมกราคม แต่ต่อมามีการเลื่อนออกไปเป็นกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้
ความคืบหน้าดังกล่าวทำให้เกิดคำถามใหม่ว่านิสสันซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตล่าสุดนี้ไปได้อย่างไร หากไม่มีความช่วยเหลือจากภายนอก ซึ่งขณะนี้นิสสันกำลังอยู่ในช่วงกลางตามแผนฟื้นฟู โดยมีเป้าหมายที่จะเลิกจ้างพนักงาน 9,000 คนและลดกำลังการผลิตทั่วโลก 20%
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก รอยเตอร์ (Reuters) รายงานอ้างอิงหนังสือพิมพ์อาซาฮี ชิมบุน (Asahi Shimbun) ว่าฮอนด้าและนิสสันอาจยุติการเจรจาควบรวมกิจการ การเคลื่อนไหวดังกล่าวจะทำให้นิสสัน ซึ่งกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักมีความไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้น
ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์อาซาฮี (Asahi) รายงานอ้างแหล่งข่าวหลายรายว่า คณะกรรมการบริหารบริษัทของทั้งนิสสันและฮอนด้าจะประชุมแยกกันในอนาคตอันใกล้นี้เพื่อหารือถึงความเป็นไปได้ที่จะยกเลิกการเจรจาควบรวมกิจการ ซึ่งสำหรับฝ่ายฮอนด้าแล้ว การเจรจาไม่ได้ดำเนินไปหรือมีความคืบหน้าอย่างที่ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่รายนี้คาดหวัง
อาซาฮีรายงานอีกว่า ฮอนด้าได้พูดคุยกับนิสสันเกี่ยวกับการเป็นบริษัทในเครือ (Subsidiary) ซึ่งเป็นแนวคิดที่นิสสันคัดค้านอย่างหนัก ซึ่งแตกต่างจากเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วที่ผู้ผลิตรถยนต์สองรายนี้กล่าวว่า พวกเขามุ่งหวังที่จะจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้ง หรือ Holding Company (บริษัทที่มีการประกอบธุรกิจหลักโดยการถือหุ้น) ภายในเดือนสิงหาคม 2026 และเมื่อนั้นหุ้นทั้งสองบริษัทจะถูกเพิกถอนออกจากการจดทะเบียน
ก่อนหน้านี้ บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานเพิ่มเติมว่า นิสสันวางแผนที่จะจัดการประชุมคณะกรรมการบริหารในช่วงบ่ายวันนี้ (5 กุมภาพันธ์ 2025) ซึ่งมีแนวโน้มว่าบริษัทจะลงคะแนนเสียงไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของฮอนด้าในการซื้อหุ้นนิสสันและการทำให้นิสสันเป็นบริษัทย่อยของฮอนด้า
ฮอนด้า ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับที่ 2 และนิสสัน ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับที่ 3 ของญี่ปุ่นประกาศเมื่อปีที่แล้วว่า ทั้งสองบริษัทอยู่ระหว่างการควบรวมกิจการ ซึ่งจะถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมญี่ปุ่นที่เน้นย้ำภัยคุกคามครั้งใหญ่ที่เกิดจากบีวายดี (BYD) ของจีน รวมถึงบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ๆรายอื่น
เมื่อคิดตามยอดขาย การควบรวมกิจการของสองค่ายรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่นจะเป็นกลุ่มยานยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของโลกตามหลังโตโยต้า (Toyota) และโฟล์คสวาเกน (Volkswagen)
อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกกำลังถูกทำให้หยุดชะงักงันจากผู้ผลิตรถอีวีที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้ ซึ่งเกิดขึ้นครั้งหนึ่งในรอบร้อยปี ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับอนาคตของผู้ผลิตรถยนต์เก่าแก่อย่างนิสสันที่ได้รับผลกระทบหนักกว่าบริษัทอื่นๆ เนื่องจากไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่หลังจากเผชิญวิกฤตหลายปีที่เกิดจากการจับกุมและปลดนายคาร์ลอส กอส์น อดีตประธานนิสสัน เมื่อปี 2018