ธ.ค. 2024 สหรัฐนำเข้าสูงเป็นประวัติการณ์ ขาดดุลครั้งใหญ่ ยิ่งหนุนนโยบายกีดกันการค้า

(ภาพ REUTERS/Brian Snyder/File Photo)

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยตัวเลขการค้าเดือนธันวาคม 2024 การขาดดุลการค้าขยายตัวอย่างมาก จากการนำเข้าที่สูงเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากภาคธุรกิจเร่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศ ท่ามกลางภัยคุกคามจากการเรียกเก็บภาษีเพิ่มของประธานาธิบดีทรัมป์ ยิ่งสนับสนุนนโยบายกีดกันทางการค้า

รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า ในเดือนธันวาคม 2024 การขาดดุลการค้าของสหรัฐขยายตัวอย่างมาก เนื่องจากการนำเข้าพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางภัยคุกคามจากภาษีศุลกากร ซึ่งอาจกระตุ้นให้ภาคธุรกิจเร่งซื้อสินค้าที่ผลิตในต่างประเทศ เช่น โลหะสำเร็จรูปและคอมพิวเตอร์

สำนักงานวิเคราะห์เศรษฐกิจ (BEA) ของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานเผยแพร่เมื่อ 5 กุมภาพันธ์ เวลาท้องถิ่นว่า การขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้น 24.7% เป็น 98,400 ล้านดอลลาร์ในเดือนธันวาคม ปี 2024 จากระดับ 78,900 ล้านดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายนของปีเดียวกัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022

ถือเป็นการขาดดุลครั้งใหญ่เป็นอันดับสองนับตั้งแต่มีการบันทึกสถิติมา และเป็นการเพิ่มขึ้นรายเดือนครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2015

ในภาพรวมสหรัฐซื้อของจากประเทศอื่นมากกว่าขายให้ประเทศอื่น หรือขาดดุลการค้า (ช่องว่างทางการค้า) อยู่ที่ 918,400 ล้านดอลลาร์ในปี 2024 สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2021

การนำเข้าโดยรวมเพิ่มขึ้น 3.5% เป็นระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 364,900 ล้านดอลลาร์ ซึ่งในส่วนของการนำเข้าสินค้าพุ่งขึ้น 4.0% เป็น 293,100 ล้านดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของอุปทานและวัสดุอุตสาหกรรม 10,800 ล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการนำเข้ารูปทรงโลหะสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น 9,200 ล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากสวิตเซอร์แลนด์

ADVERTISMENT

การส่งออกโดยรวมลดลง 2.6% เหลือ 266,500 ล้านดอลลาร์ โดยการส่งออกสินค้าลดลง 4.2% นับเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2020 เหลือ 170,200 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมาจากการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคที่ลดลง 1,800 ล้านดอลลาร์

การขาดดุลการค้าขยายตัวเพิ่มขึ้นกับแคนาดา แต่หดตัวกับจีนและเม็กซิโก ซึ่งตามสถิติของเดือนธันวาคมปี 2024 สหรัฐขาดดุลการค้ากับแคนาดาเพิ่มขึ้น 2,900 ล้านดอลลาร์ เป็น 7,900 ล้านดอลลาร์ แม้ว่าการขาดดุลการค้ากับจีนจะแคบลงในเดือนธันวาคม (แต่เมื่อคิดเป็นรายปีสหรัฐขาดดุลการค้ากับจีน กลับเพิ่มขึ้นเป็น 295.4 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 จาก 279.1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023) และขาดดุลการค้ากับเม็กซิโกลดลงเหลือ 15.2 พันล้านดอลลาร์จาก 15.4 พันล้านดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายนในปีเดียวกัน

ADVERTISMENT

สหรัฐประสบปัญหาขาดดุลการค้าอย่างมากกับคู่ค้าหลายราย รวมถึงจีน เม็กซิโก และแคนาดา ซึ่งเป็นเป้าหมายของรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติม หรือขยายขอบเขต ทั้งนี้ ทรัมป์ได้ระงับการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดา 25% จนถึงเดือนมีนาคมนี้

การจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติม 10% เริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อ 4 กุมภาพันธ์ แม้ว่ารัฐบาลชุดใหม่ให้เหตุผลว่า ภาษีนำเข้าส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการอพยพเข้าเมืองที่ผิดกฎหมายและการหลั่งไหลของยาเสพติดเฟนทานิลที่ทะลักเข้าสหรัฐอยู่ในขณะนี้ แต่การขาดดุลที่เพิ่มขึ้นอาจไปช่วยเสริมข้อโต้แย้งของทรัมป์ในการดำเนินนโยบายการค้าแบบกีดกัน

โทมัส ไรอัน นักเศรษฐศาสตร์ที่รับผิดชอบภูมิภาคอเมริกาเหนือของบริษัทแคปิตอล อีโคโนมิกส์ (Capital Economics) กล่าวว่า ความแข็งแกร่งของการนำเข้า ดูเหมือนว่าจะขับเคลื่อนโดยธุรกิจที่เร่งสั่งซื้อก่อนที่จะมีภาษีศุลกากร ซึ่งแนวโน้มนี้ไม่น่าจะพลิกกลับในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากยังมีความเสี่ยงที่เม็กซิโกและแคนาดาจะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากร 25% ในเดือนมีนาคมหรือเดือนหน้านี้แล้ว แม้ว่าข้อมูลการสำรวจจะชี้ให้เห็นถึงการส่งออกที่ฟื้นตัวในเร็ว ๆ นี้ แต่ก็ชี้ให้เห็นว่าการขาดดุลการค้าจะยังคงขยายกว้างขึ้นในไตรมาสนี้