ไปรษณีย์สหรัฐ กลับลำ หวนรับพัสดุจากจีน-ฮ่องกง

ข้อมูลเผยแพร่เมื่อ 6 ก.พ. 2025 เวลา 13.51 น. และอัพเดตเมื่อเวลา 14.25 น.

กลายเป็นความเคลื่อนไหวที่สร้างความสับสนแก่ผู้ใช้บริการ เมื่อไปรษณีย์สหรัฐประกาศกลับมารับพัสดุจากจีนและฮ่องกง ตามเดิม ขณะที่สาเหตุการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ยังไม่ชัดเจน ท่ามกลางการบังคับใช้ภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 10% 

บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ว่า การไปรษณีย์สหรัฐ (USPS) กลับมารับพัสดุจากจีนและฮ่องกง ถือเป็นการกลับลำ หลังจากแจ้งงดส่งพัสดุขาเข้าจากจีนและฮ่องกงเป็นการชั่วคราวไปก่อนหน้านี้ ด้วยเหตุผลกำลังดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าการจัดเก็บอัตราภาษีศุลกากรใหม่มีประสิทธิภาพ

ไปรษณีย์สหรัฐ ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐระบุว่ากำลังรับจดหมายและพัสดุขาเข้าระหว่างประเทศทั้งหมด ซึ่งรวมจากจีนและฮ่องกงด้วย โดยยกเลิกประกาศที่ได้ประกาศไปเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ที่ว่าจะระงับการส่งพัสดุบางส่วนที่มาจากต่างประเทศ

ไปรษณีย์สหรัฐระบุในแถลงการณ์ทางอีเมลว่า หน่วยงานกำลังทำงานร่วมกับสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐเพื่อลดการหยุดชะงักงันในการจัดส่งพัสดุให้เหลือน้อยที่สุด พร้อมทั้งนำกลไกการจัดเก็บที่มีประสิทธิภาพมาใช้กับภาษีที่สหรัฐเรียกเก็บจากจีน ซึ่งกลไกนี้จะนำมาใช้กับการรับพัสดุตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป

การกลับมาให้บริการตามปกติได้ยุติความสับสนที่เกิดขึ้นนาน 12 ชั่วโมง หลังจากไปรษณีย์สหรัฐประกาศจะระงับการส่งพัสดุจากจีนและฮ่องกงเป็นการชั่วคราว โดยไม่ได้ระบุถึงสาเหตุ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันแรกที่อัตราภาษีศุลกากรใหม่มีผลบังคับใช้ ซึ่งการเคลื่อนไหวกะทันหันดังกล่าวอาจส่งผลให้สงครามการค้ารุนแรงขึ้น และทำให้หุ้นของผู้ค้าปลีกในธุรกิจอีคอมเมิร์ซร่วงลง เช่น อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง ลิมิเต็ด (Alibaba Group Holding Ltd.) และ เจดี.คอม คอร์เปอเรต (JD.com Inc.)

ยังไม่ชัดเจนว่าอะไรเป็นแรงผลักดันให้ประกาศงดรับพัสดุในครั้งแรกและการกลับลำในเวลาต่อมา หรือการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นผลจากการตัดสินใจทางการเมือง หรือการตัดสินใจด้านโลจิสติกส์กันแน่

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐได้ยกเลิกกฎ “de minimis” สำหรับจีน ซึ่งก่อนหน้านี้อนุญาตให้พัสดุขนาดเล็กที่มีมูลค่าต่ำกว่า 800 ดอลลาร์ (ราว 26,900 บาท) สามารถนำเข้าสหรัฐได้โดยไม่ต้องเสียภาษีอากร

จีนจึงไม่สามารถใช้กฎ “de minimis” ได้ เนื่องจากทรัมป์ใช้มาตรการภาษีศุลกากร 10% สำหรับสินค้าจากจีน ซึ่งเพิ่งมีผลไปเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และกำหนดให้ผู้ให้บริการไปรษณีย์ต้องปรับเปลี่ยนลูกค้าที่ให้บริการและพิธีการอื่น ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับภาษีดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ของสหรัฐกล่าวหาว่า พัสดุโดยตรงจากจีนและผ่านประเทศอื่นเป็นช่องทางสำหรับยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย รวมถึงเฟนทานิลที่อันตรายถึงชีวิต ปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาการค้าของทำเนียบขาวกล่าวกับโพลิติโก (Politico) สื่อด้านการเมืองของสหรัฐ ในงานที่กรุงวอชิงตัน เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ว่า สิ่งที่กลุ่มค้ายาในจีนทำคือใช้ช่องโหว่จากกฎ “de minimis” ในการลักลอบนำสารเสพติดเฟนทานิลเข้ามา ซึ่งไม่ใช่แค่เฟนทานิลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงยาเสพติดทุกประเภทด้วย