
‘โนมูระ’ วิเคราะห์ ทรัมป์อุดช่องโหว่การค้า ฉุดส่งออก-เศรษฐกิจ ‘จีน’ ร่วงกว่าหมื่นล้านดอลลาร์
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า จากประมาณการครั้งล่าสุดของโนมูระ โฮลดิ้งส์ (Nomura Holdings) พบว่าการอุดช่องโหว่ทางภาษีกับสินค้าจีนของโดนัลด์ ทรัมป์จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 337,000 ล้านบาท) รวมถึงลดการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้ลงอีกด้วย
ตามประมาณการของโนมูระ ตลอดปี 2024 ชีอิน (Shein) และเทมู (Temu) ขนส่งสินค้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยรวมแล้วมูลค่ากว่า 46,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.5 ล้านล้านบาท) มายังสหรัฐ จากช่องโหว่ทางภาษีที่อนุญาตให้นำเข้าสินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 800 ดอลลาร์ (ราว 27,000 บาท) มายังสหรัฐได้โดยปลอดอากร
หากสหรัฐขึ้นภาษีกับสินค้าจีนอีก 10% และมาตรการอื่น ๆ ที่จำกัดการขนส่งจะทำให้การส่งออกของจีนเติบโตลดลง 1.3 จุดเปอร์เซ็นต์ และทำเศรษฐกิจจีนโตน้อยลงอีก 0.2 จุดเปอร์เซ็นต์
จีนส่งสินค้ามูลค่าน้อยมายังสหรัฐเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยอาศัยช่องโหว่ทางภาษี ตามการรายงานของจีน ในปี 2024 ที่ผ่านมา จีนรายงานว่าส่งออกสินค้ามูลค่าต่ำไปยังสหรัฐคิดเป็น 23,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 777,400 ล้านบาท) ซึ่งบลูมเบิร์กวิเคราะห์ว่า เป็นการคำนวณที่นับไม่ครบ และยังรายงานว่าจีนส่งสินค้าเป็นลอตไปยังเม็กซิโกก่อนจะแยกเป็นแพ็กเกจชิ้นเล็กชิ้นน้อยส่งต่อไปยังสหรัฐ
ด้วยเหตุนี้ ข้อมูลทางการค้าของจีนและสหรัฐจึงไม่ตรงกัน เนื่องจากจีนนับพัสดุเล็กน้อยเหล่านี้บางส่วน ขณะที่สหรัฐไม่นับ
นับตั้งแต่ปี 2020 จีนรายงานการส่งออกไปยังสหรัฐ มากกว่าที่สหรัฐรายงานการนำเข้าจากจีน ซึ่งช่องว่างดังกล่าวถ่างกว้างเป็น 86,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.9 ล้านล้านบาท) ในปี 2024
ด้วยกำแพงภาษีที่สูงขึ้น ทำให้บริษัทต่าง ๆ ต้องเพิ่มราคาบริการขนส่ง เช่น เอส เอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล (SF International) โลจิสติกส์สัญชาติจีนประกาศในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ว่าจะขึ้นค่าธรรมเนียมอีก 20 หยวน (ราว 92 บาท) ต่อพัสดุทุกชิ้นที่ส่งออกจากจีนหรือฮ่องกง ตลอดจนเรียกเงินมัดจำภาษีในอัตรา 30%
ขณะที่ต้นทุนการส่งสินค้าทางอากาศ (Air Freight) ลดลงกว่า 50% หลังมีการเปลี่ยนแปลงทางอัตราภาษีศุลกากร