
ซีอีโอเมอส์ก คาดผลประกอบการโตอีก 4% ปีนี้ แม้โลกเสี่ยงสงครามการค้าจากโดนัลด์ ทรัมป์
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า วินเซนต์ แคลร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเมอส์ก (Maersk) บริษัทขนส่งระดับโลกสัญชาติเดนมาร์ก ให้สัมภาษณ์กับทางบลูมเบิร์กทีวี (Bloomberg TV) และคาดการณ์ว่า การขนส่งตู้คอนเทนเนอร์จะเติบโตขึ้นอีก 4% ในปีนี้ หลังมีผลประกอบการเติบโต 6% ในปี 2024 ที่ผ่านมา
วินเซนต์ แคลร์ก กล่าวว่า “กำแพงภาษีเป็นหนึ่งในหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เราต้องคำนึงถึงอัตราดอกเบี้ย ฟอเร็กซ์ และอัตราภาษีด้วย ซึ่งเท่าที่ผ่านมา เราเห็นความเชื่อมั่นผู้บริโภคและอุปสงค์ที่แข็งแรง ไม่เพียงแค่ในสหรัฐเท่านั้น แต่ที่อื่น ๆ ทั่วโลกก็เป็นเช่นเดียวกัน”
นอกจากนี้ เมอส์กยังมีผลประกอบการไตรมาสสี่ดีกว่าคาดการณ์อีก ด้วยอัตราค่าระหว่างเรือที่เพิ่มสูงขึ้นจากเหตุการณ์กบฎฮูตีโจมตีเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดง ทำให้เรือพาณิชย์ระงับเส้นทางเดินเรือดังกล่าว อย่างไรก็ตาม สงครามการค้าของโดนัลด์ ทรัมป์อาจทำให้แนวโน้มการขนส่งอาจดูเลวร้ายลงในปีนี้
คาดว่าในปี 2025 กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ของเมอส์กอยู่ที่ประมาณ 6,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 2 แสนล้านบาท) หากทะเลแดงเปิดเส้นทางเดินเรือภายในกลางปี และ 9,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 3 แสนล้านบาท) หากทะเลแดงยังไม่เปิดเส้นทางเดินเรือจนสิ้นปี
ลี กลาสโคว (Lee Klaskow) นักวิเคราะห์จากบลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ ระบุว่า หากข้อตกลงหยุดยิงในทะเลแดงสิ้นสุดลง อุตสาหกรรมเดินเรืออาจเผชิญภาวะอุปทานล้นเกิน เนื่องจากมีเรือลำใหม่เข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้น และทำให้อัตราค่าระวางเรือถูกลง ทำให้บริษัทขนส่งมีรายได้น้อยลง
กระนั้น ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เมอส์กใช้กำไรที่ได้มหาศาลในปี 2024 ดำเนินโครงการซื้อหุ้นคืน มูลค่ากว่า 2,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 67,000 ล้านบาท)